![](https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgPe4EwrQ3L7FI0gJ6zgFgqg4fWd7PDAmZkaJrS7jcrPlx3eyWyr9ZE5nm5HCWdX7TBQv9UYrqmMA_KOwkawwUJMwwLViCnNYRxyXrKEKiSlyJvqolbQ4loGH4ThHOJ2A_33uEeAQnU2C5KWeZvDgRY7gflFs3GqIMDgYkL0dV42BydOmArPg0_Ce_M/s16000/%E0%B9%84%E0%B8%951.jpg)
![](https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhyV2B3FzljiSA4x0lldpK0m0G-TKC4Yek6hFkCq5Te2bUbL5HOXSfUsNQu14vJW87aVN29uKN5uXuXtrsXcmh8-XRAIwOpUEeF-wMN8J5-bC5fMg1cJTiqovmet3CYi2epfemazYTmiPN8HyxoSLRLE0EqSj3fFzi5mtReJXasVyBfFRr0T1Bx-tjh/s16000/%E0%B9%84%E0%B8%95.jpg)
![](https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhlHLkxQyFgOTwRSJNQm8LYG21II7ZfXNEhX2mu-BZwotFQFX8su-knF_sdSaEiGB2kZLf0Dm_gsIwNYAJbA82JyI4fGhrOsbSIEEWC7VNVJIvfZbn5EflsykVIEBgpNy3qwo9o6oKYr0x8A3w2M-YewTYQ7C2-_7yR9b8UZ8xbljCTwS-S5Ia55KR_/s16000/%E0%B9%84%E0%B8%954.jpg)
![](https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEiU9snu0U1hN7aDLspTDiUHC_E6eSI0_9O81aj_IeHRbGKQGs_8E5A_c7csyKCZ_0Dy7bT3iYa69TMpvv0Ut35fHDV59wv1DMvSUayPp1m-R_2TWWa2aAjZSpTqxM_cxTYpNMyRb6ntIto2v8l1o5MhjRFPmrzHAGMItuJLmyE-7ZMlqR3I1eaeIo20/s16000/%E0%B9%84%E0%B8%953.jpg)
![](https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEh5F25VTEaK71gugSN40EUkkpMo2wrs1yhRcquN7TVHC9xKnsC5S3fxZ6Q9mSySQdngYb7XYYgoV6OPXNlG3evv9EXOsfaUhKFRs8urTq8ApMD5uPC7ufyU87UGOY_3_9Q-jtWoU-HmLteGnoO7EpD-Rja65Fbx21-BqgGTrJZe4T6eGmviDQrypiHX/s16000/%E0%B9%84%E0%B8%955.jpg)
นอกจากการรักษาพยาบาลแล้ว สปสช. ได้ส่งเสริมให้มีเครือข่ายผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังในโรงพยาบาล ปัจจุบันมีสมาคมพยาบาลโรคไตแห่งประเทศไทย และสมาคมเพื่อนโรคไตแห่งประเทศไทย เพื่อร่วมกันพัฒนาเครือข่ายผู้ป่วยให้เข้มแข็ง ส่งผลให้ผู้ป่วยโรคไตเข้าถึงการรักษา มีความรู้ความมั่นใจในการดูแลตนเองตามมาตรฐาน สร้างความสัมพันธ์อันดี ระหว่าง แพทย์ พยาบาล ผู้ป่วย และครอบครัว ทำให้เข้าใจสิทธิการรักษา ลดปัญหาความขัดแย้ง และเพิ่มประสิทธิภาพระบบบริการได้อีกทางด้วย รวมถึงการตรวจคัดกรองผู้ป่วยโรคเรื้อรัง เบาหวาน ความดันโลหิตสูง เพื่อไม่ให้ป่วยด้วยโรคไตวายเรื้อรังระยะสุดท้าย เนื่องจากเป็นสาเหตุสำคัญของการเป็นโรคไตวาย หากป้องกันไตวายจะช่วยชะลอไตเสื่อมก่อนเวลาได้ และสนับสนุนให้มีการคลินิกเฉพาะในโรงพยาบาลอีกด้วย
![](https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhPgBCTfuU0X5X_7oZnDfKwIs7Nm74y1W9XzGNARQ_raNwgZHXxZgjwqXKEs7hwnM4N6vMaqW8i2h2wawXDIg_teBP5VbZCRI7dG25YhgIgErl16nOuVyMrzl1FW_XBxPPFk_ZayZDP9yaeUl-7EzLmdxuYtWk-_9hHZFVHtor3sTteD-nOiNGJs3-c/s16000/%E0%B9%84%E0%B8%956.jpg)
การจัดกิจกรรมวันไตโลก(World Kidney Day 2023) “Kidney Health For All- preparing for the unexpected, supporting the vulnerable” ภายใต้คำขวัญ “ตระหนักภัย ใส่ใจไต ป้องกันไว้ เน้นกลุ่มเสี่ยง” ในวันอาทิตย์ที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2566 ณ บริเวณ ชั้น 1 โซน Central Court Zone C (ใกล้ลิฟต์แก้ว) ภายในศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ โดยในงานมีกิจกรรมต่างๆ มากมายอาทิ การตรวจสุขภาพโรคไต ฟรี สำหรับประชาชน โดยได้เตรียมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโรคไตมาให้คำปรึกษากับประชาชน เพื่อที่ประชาชนไม่ต้องเสียเวลาไปโรงพยาบาลตรวจ ซึ่งการตรวจจะเป็นการตรวจคัดกรองโรคไต ได้แก่ การตรวจค่าการทำงานของไตจากการเจาะเลือด หรือการตรวจปัสสาวะ ดูปริมาณโปรตีนที่รั่วในปัสสาวะ
ภายในงานยังมีนิทรรศการให้ความรู้ ข้อมูลข่าวสารด้านสุขภาพไต งานแสดงผลิตภัณฑ์อาหารสุขภาพ การสาธิตการออกกำลังกายจากผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง การสาธิตการทำอาหารที่เหมาะสมสำหรับผู้ป่วยโรคไตโดยเชฟชื่อดัง และรายการบนเวทีที่ให้ทั้งความรู้และความบันเทิงจาก ดารา ศิลปินที่มีชื่อเสียงของประเทศไทย และเป็นปีแรกที่ทางสมาคมฯได้จัดให้มีการประกวดหนุ่มสาวสุขภาพไตดี
นอกจากนี้ยังจัดทำเสื้อกิจกรรมวันไตโลก จำหน่ายในราคาตัวละ 299 บาท และขอเชิญชวนร่วมกิจกรรม “Kidney Health For All Fun Run วิ่งเพื่อสุขภาพเนื่องในวันไตโลก” ในวันเสาร์ที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2566 เวลา 05:30 - 08:30 น. ณ สวนสาธารณะ เบญจกิติ เขตคลองเตย กรุงเทพฯ ค่าสมัคร 500 บาท โดยสิทธิประโยชน์ผู้สมัครจะได้รับเสื้อวิ่ง และเหรียญรางวัลเป็นที่ระลึกด้วย รายได้หลังหักค่าใช้จ่ายแล้วเพื่อสมทบทุนในการจัดกิจกรรมครั้งต่อไปอันจะส่งผลให้คนไทยมีสุขภาพดีถ้วนหน้า โดยสามารถดูรายละเอียดได้ที่ 02-718 1898 หรือ เว็บไซต์ www.nephrothai.org
![](https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgnZ8_0anjpDP1ciK3NHLlNzElmZjous-Ekz35yzlRr0iUgxD973EDa5iVpLYg6dE-TqAJuJcFOjFG4urjLNfSWdch-vp7wWHctQASE4HdqYv5-c_Fe_jTnaGauZc5_yHGOKjWb1IZlRpP8SeGYTUTN01TONAU8er0bT_lKCJOt8zzotNCJ42aCIhp8/s16000/%E0%B8%A1%E0%B8%B8%E0%B8%A5%E0%B8%99%E0%B8%B4%E0%B8%98%E0%B8%B4.jpg)
มูลนิธิโรคไตแห่งประเทศไทย สามารถช่วยเหลือผู้ป่วยโรคไตและทางเดินปัสสาวะที่ยากไร้ โดยช่วย “ต่อชีวิต” ผู้ป่วยตามโครงการหน่วยไตเทียมทั่วประเทศ และช่วย “ชุบชีวิต” ผู้ป่วยด้วยการผ่าตัดปลูกถ่ายไต, สนับสนุนจัดประชุมวิชาการ ทุนวิจัย, ทุนแพทย์ศึกษาในประเทศ และทุนแพทย์ศึกษาต่อต่างประเทศ และให้ทุนฝึกอบรมพยาบาลไตเทียม นอกจากนี้ยังได้สนับสนุนเป็นค่ายาและค่ารักษาผู้ป่วย,สนับสนุนเครื่องไตเทียม ระบบน้ำ และเครื่องมือทางการแพทย์ให้กับโรงพยาบาลทั่วประเทศ อีกด้วย
ในการนี้ มูลนิธิโรคไตแห่งประเทศไทย รู้สึกสำนึกในพระกรุณาธิคุณของสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ที่มีต่อมูลนิธิโรคไตแห่งประเทศไทย และผู้ป่วยโรคไตและทางเดินปัสสาวะที่ยากไร้ทั่วประเทศเป็นล้นพ้น ได้จัดตั้ง “โครงการปลูกถ่ายไตถวายเป้นพระราชกุศล 100 ปี ประสูติ สมเด็จพระเจ้านางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ จึงขอเรียนเชิญท่านผู้มีจิตศรัทธาบริจาคทรัพย์ และขอเชิญชวนบริจาคอวัยวะเพื่อต่อชีวิตผู้ป่วย ถวายเป็นพระราชกุศลร่วมกันสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ เบอร์โทรศัพท์ 02-419-7187 www.kidneythai.org
ด้าน สมาคมพยาบาลโรคไตแห่งประเทศไทย กล่าวว่า สมาคมพยาบาลโรคไตแห่งประเทศไทย จัดตั้งขึ้นมาด้วยความร่วมมือร่วมใจกันของพยาบาลวิชาชีพโรคไต ทั่วประเทศ โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อเป็นศูนย์กลางในการพัฒนาวิชาการ และองค์ความรู้ด้านการพยาบาลโรคไต พัฒนาบุคลากรด้านการพยาบาลโรคไต ให้บริการวิชาการด้านการพยาบาลโรคไตแก่ประชาชน
ในนามของ สมาคมพยาบาลโรคไตแห่งประเทศไทย และคณะกรรมการบริหารสมาคม มีความเชื่อมั่นว่าสมาคมจะเป็นตัวแทนของผู้ประกอบวิชาชีพพยาบาลโรคไตในประเทศไทย สร้างการยอมรับในสังคมในการส่งเสริม รักษาจรรยาบรรณ และเชิดชูเกียรติวิชาชีพของพยาบาลโรคไต ให้คำปรึกษา และข้อเสนอแนะ ในด้านการส่งเสริมการศึกษา การบริการ การวิจัยด้านการพยาบาลโรคไต นำเสนอความก้าวหน้าของสมาชิกต่อรัฐบาล ท้องถิ่น สถาบันการศึกษา และองค์กรวิชาชีพ รวมถึงการให้ความรู้ด้านการป้องกันโรคไต และการบำบัดทดแทนไตแก่ประชาชน ประสานงานในด้านการดูแลรักษาพยาบาล และพัฒนาระบบงานที่มีความต่อเนื่องในบุคคล ครอบครัว ชุมชน ร่วมมือกับองค์กรการกุศล เพื่อการกุศล และสาธารณประโยชน์
ด้าน สมาคมเพื่อนโรคไตแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ปัจจุบันมีผู้ป่วยโรคไตเพิ่มสูงขึ้นทุกปี ซึ่งโรคนี้เป็นโรคที่ผู้ป่วยอาจมีอาการแย่ลงได้ทีละน้อยโดยไม่รู้ตัว ผู้ป่วยหลายรายทราบว่าตนเองเป็นโรคไตก็ต่อเมื่อมีอาการแย่แล้ว ดังนั้น การระมัดระวังในการใช้ชีวิต การเรียนรู้เรื่องของความเสี่ยงต่างๆ ของโรคไต โดยเฉพาะเรื่องของอาหารการกินหมั่นสังเกตตนเอง และการเข้ารับการคัดกรองโรคไตเพื่อให้ได้เข้ารับการรักษาที่ทันถ่วงทีจึงเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ในแต่ละปียังมีผู้ป่วยที่รอรับบริจาคไตอีกเป็นจำนวนมาก ปัญหาของผู้ป่วย คือ การบริโภคอาหารที่ไม่เหมาะสมกับสุขภาพ การบริโภคอาหารรสชาติเค็มเกินความพอดี ทำให้ผู้บริโภคเกิดปัญหาทางสุขภาพตามมา อาทิ โรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ โรคเบาหวาน โรคไตเรื้อรังทั้งที่ยังไม่วาย และโรคไตที่วายแล้วต้องการการฟอกเลือด
ทาง สมาคมเพื่อนโรคไตฯ ได้สนับสนุน การรณรงค์ลดการบริโภคเค็มมาอย่างต่อเนื่อง รวมถึงประเด็นความเข้าใจผิดอย่างเรื่องเกี่ยวกับการบริจาคไต เพื่อให้ผู้ป่วยแล้ว ผู้บริจาคจะมีปัญหาสุขภาพอ่อนแอตามมา ซึ่งจากการวิจัยที่ผ่านมาของ American Medical Association ระบุว่าผู้บริจาคไตอาจมีอายุยืนพอๆ กัน หรือ มากกว่าคนที่มีไตครบทั้งสองข้างเสียอีก โดยที่ภายใน 12 ปีหลังการบริจาค กลุ่มที่บริจาคไตจะมีอัตราการเสียชีวิตต่ำกว่าคนที่มีไตครบทั้งสองข้างอย่างเห็นได้ชัด สำหรับในประเทศไทยมีผู้บริจาคไตประมาณ 300 รายต่อปี ซึ่งหมายความว่าในกลุ่มผู้รอบริจาคไตหนึ่งล้านคน จะมีผู้บริจาคเพียง 4.5 คนเท่านั้น
สุดท้ายนี้ ขอเชิญชวนผู้ที่สนใจจะบริจาคอวัยวะสามารถศึกษาข้อมูลได้ที่ศูนย์บริจาคอวัยวะสภากาชาดไทย หรือ www.organdonate.in.th หรือ สายด่วน 1666
No comments:
Post a Comment