เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2566 นางพัชรี อาระยะกุล ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ได้เป็นประธาน พิธีเปิดสถานธนานุเคราะห์ สาขาที่ ๔๓ อย่างเป็นทางการ ณ อาคารสถานธนานุเคราะห์สาขาที่ ๔๓ ต.หน้าเมือง อ.เมืองราชบุรี จ.ราชบุรี โดยมี นางสมพิศ หลวงแจ่ม พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดราชบุรี ให้การต้อนรับ
นางพัชรี อาระยะกุล ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กล่าวว่าสถานธนานุเคราะห์ (สธค.) หรือโรงรับจำนำของรัฐ เป็นรัฐวิสาหกิจสังกัดกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ (พส.) กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.)ทำหน้าที่เป็นกลไกในการจัดสวัสดิการสังคม เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ประสบปัญหาความเดือดร้อนทางการเงิน โดยมีวัตถุประสงค์ที่สำคัญเพื่อรับจำนำในอัตราดอกเบี้ยต่ำ และตรึงระดับอัตราดอกเบี้ยไม่ให้โรงรับจำนำเอกชนเรียกค่าบริการสูงกว่าที่กฎหมายกำหนด โดยการให้บริการของ สธค. ถือเป็นทางเลือกหนึ่ง ที่ทำให้ประชาชนสามารถเข้าถึงบริการของภาครัฐตามนโยบายของรัฐบาลที่มุ่งขจัดความเดือนร้อนในด้านการเงินของประชาชนผู้มีรายได้น้อย และผู้ที่ประสบปัญหาทางการเงินเฉพาะหน้า
นางสมพิศ หลวงแจ่ม พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดราชบุรี
นายประสงค์ พันธ์ลิมา ผู้อำนวยการสำนักงานธนานุเคราะห์ปัจจุบัน สธค. ได้ขับเคลื่อนการดำเนินงานเข้าสู่ปีที่ 69 เปิดสถานธนานุเคราะห์ 43 แห่ง แบ่งเป็นสาขาในกรุงเทพมหานคร 29 แห่ง และปริมณฑล จำนวน 4 แห่ง ได้แก่จังหวัด นนทบุรี, ปทุมธานี , สมุทรปราการ ส่วนภูมิภาค 9 แห่ง ได้แก่ จังหวัดระยอง 2 แห่ง ลำพูน 1 แห่ง สุราษฏร์ธานี 1 แห่ง จังหวัดอุดรธานี 1 แห่ง จังหวัดพิษณุโลก 1 แห่ง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา 1 แห่ง จังหวัดชลบุรี 1 แห่ง สุพรรณบุรี 1แห่ง และที่เพิ่งเปิดใหม่อีก1แห่งคือที่จังหวัดราชบุรี
ด้วยวิสัยทัศน์ "เป็นองค์กรชั้นนำ ด้านการบริการรับจำนำ ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย และ ยึดหลักธรรมาภิบาล” โดยมีจำนวนทั้งสิ้น 43 สาขาทั่วประเทศ รวมสาขาจังหวัดราชบุรี ที่กำหนดจัดพิธีเปิดอย่างทางการในวันนี้ เพื่อสนับสนุนนโยบายของรัฐบาลในการช่วยเหลือประชาชน ผู้มีรายได้น้อยและผู้ประสบปัญหาความเดือดร้อนเฉพาะหน้าทางการเงิน
อีกทั้งการแก้ไขความยากจนของประชาชน โดยสามารถนำสิ่งของมาจำนำ และเสียดอกเบี้ยในอัตราต่ำกว่าที่กฎหมายกำหนด เป็นการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนให้ได้รับ การบริการทางสังคมที่จำเป็นแก่การดำรงชีพ
![](https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEiyUactO0ogwiV4sKWgJYrVc00luOB6nnnZj7RvexagAnMSwXc_mdRFHwMrs67wU2PrcfwzFc5BAkU4SY6LmbDIFfj5USpyaf12-npefqRNraIGO8I_owt2S4bVi2MogzAEkdzS9x8B-xpn-1PbN3XEjesoJPc5QtnMY8zR6BBRyBHBhbPgLJ4qezX3/s16000/%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%8A7.jpg)
ทั้งนี้ สธค. โรงรับจำนำเพื่อสังคม ได้จัดทำแผนขยายสาขาการให้บริการในพื้นที่ส่วนภูมิภาคอย่างครอบคลุมทั่วทั้งประเทศ โดยได้เล็งเห็นถึงความสำคัญและศักยภาพของจังหวัดสุพรรณบุรีว่า มีประชากรหนาแน่น มีความต้องการในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนของภาครัฐเป็นจำนวนมาก และเป็นแหล่งธุรกิจสำคัญนั้น จึงได้พิจารณาคัดเลือกพื้นที่นี้ เพื่อจัดตั้งสถานธนานุเคราะห์ สาขาที่ 43 เพื่อรองรับความต้องการประชาชน
![](https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEiOhhF93Cip4cc0xpmgdkDA0miaqPkySnNSrLVxAZvjB_iWWICeMM9whnK3fdgsNYg16UVYmRnANM2XpA0xFmPC8K9jsUzvORgH8FfkOr7MsGA14s08l9wrEUBlswTHs-I6nCwZe_dlhLaQbRL2of3RwD19z7A2J_mTv-edHzxh20tOJxR3yt6i7feF/s16000/%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%8A3.jpg)
ด้าน
นาย ประสงค์ พันธ์ลิมา ผู้อำนวยการสำนักงานธนานุเคราะห์ กล่าวว่า การจัดตั้งสถานธนานุเคราะห์ ณ ถนนราษฏรยินดี จังหวัดราชบุรี โดยกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ มีนโยบายช่วยเหลือประชาชนผู้มีรายได้น้อย ที่สามารถแก้ไขปัญหาทางการเงินในระยะสั้น โดยไม่ต้องเสียดอกเบี้ยในอัตราที่สูง เพื่อให้ประชาชนมีเงินทุนหมุนเวียนนำไปลงทุนประกอบอาชีพ รวมทั้งใช้จ่ายทางการศึกษาของบุตร หรือค่าใช้จ่ายอื่นๆ ในชีวิตประจำวัน โดย สธค. มีการคิดอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำ ดังนี้ 1) เงินต้นไม่เกิน 5,000 บาทคิดดอกเบี้ยร้อยละ 0.25 บาท ต่อเดือน 2) เงินต้น 5,001 - 10,000 บาท คิดดอกเบี้ยร้อยละ 0.75 บาท ต่อเดือน 3) เงินต้น 10,001 - 20,000 บาท คิดดอกเบี้ยร้อยละ 1.00 บาทต่อเดือน 4) เงินต้น 20,001 - 100,000 บาท คิดดอกเบี้ยร้อยละ 1.25 บาทต่อเดือน
![](https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEg0sDkj9nb1VMpscDmqFQ6ksptALqGcC-51uhafio2ts38VMX2nJu794bWSf2Vne1M472Vi6Ym4HKpTj5X0O2WG20y1bpiJACv48zo0AyJoWMJ2swXFn3byaFo_VnQY5fXrGncQeeprUXMJBgfRPeJlemOjI8Bjjw-8pcKlKZMIGya4NIfKsUGrRSnL/s16000/%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%8A13.jpg)
![](https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEitcnnyLSdf5DTpXDYfPBH6Z5akoXui2217wAEfYy-BE62saa6pfkdVbEjnY186xu7khHK8s2Ta0zAJOspaENx6Bp5lkvSS__wb86E9RlGCctSf7t7dJDhlmlix-eMm3StptA2gvu1_LnTdsXL4dLZsJZgthPToxYcxgJFOY1HIZhqlYWGLNl8wG5ZR/s16000/%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%8A12.jpg)
ซึ่ง สธค. ได้คิดอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำสุดในธุรกิจโรงรับจำนำ เพียงร้อยละ 25 สตางค์ต่อเดือน (วงเงินไม่เกิน 5,000 บาท) อีกทั้ง ยังมีนโยบายอัตราการรับจำนำทรัพย์ประเภททอง นาก เงิน และรูปพรรณ โดยรับจำนำไม่เกินร้อยละ 87.5 ของราคาทองรูปพรรณในท้องตลาด ซึ่งให้ราคารับจำนำที่สูงขึ้นกว่าเดิม
"การคิดอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำของ สธค. นับว่าเป็นการช่วยเหลืออย่างแท้จริง สำหรับประชาชนผู้มีรายได้น้อยและผู้ที่ประสบปัญหาทางการเงินเฉพาะหน้า โดยได้มีการปรับภาพลักษณ์เปลี่ยนโฉมการบริการใหม่ ตั้งแต่ภาพลักษณ์ภายนอกด้านอาคารสถานที่ที่มีความสะดวกสบายมากขึ้น คล้ายคลึงสถาบันการเงินต่างๆ และการนำเอาเทคโนโลยีที่ทันสมัยเข้ามาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ ด้วยการให้บริการที่สะดวก รวดเร็ว และมีมาตรฐานมากยิ่งขึ้น โดยคำนึงถึงประโยชน์สูงสุดของประชาชน”
ติดตามข้อมูล
Fanpage: สธค.โรงรับจำนำของรัฐ
ID: @ppo.pawn
No comments:
Post a Comment