“ไทยประกันชีวิต” ปี 65 กำไรสูงเป็นประวัติการณ์ 9,265 ล้านบาท - BIZTHAI POST

BIZTHAI POST

The Thai Biz Website

Breaking

Home Top Ad

Post Top Ad

Friday, February 24, 2023

“ไทยประกันชีวิต” ปี 65 กำไรสูงเป็นประวัติการณ์ 9,265 ล้านบาท

ไทยประกันชีวิตแจ้งผลประกอบการปี 65 กำไรสูงเป็นประวัติการณ์อยู่ที่ 9,265 ล้านบาท เบี้ยประกันภัยรับปีแรกแบบคำนวณรายปีเพิ่มขึ้น 13% VONB เพิ่ม 31% ผลจากการเติบโตของทุกช่องทางการขายตามกลยุทธ์ Multi-Channel และการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่สร้างกำไรระยะยาว ตอบวิสัยทัศน์การเป็นบริษัทประกันชีวิตแห่งความยั่งยืน

นายไชย ไชยวรรณ กรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงผลประกอบการของบริษัทฯ ในปี 2565 ว่า แม้ว่าปี 2565 อุตสาหกรรมประกันชีวิตต้องเผชิญกับความท้าทายจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ประกอบกับช่วงครึ่งปีแรกจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่ไทยประกันชีวิตยังคงมีผลประกอบการที่เข้มแข็ง โดยบริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 9,265 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10% จากปี 2564 มีเบี้ยประกันภัยรับปีแรกแบบคำนวณรายปี (Annual Premium Equivalent หรือ APE) ที่ 12,819 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13%

ขณะที่ผลรวมของกำไรที่คาดว่าจะได้รับตั้งแต่วันแรกจนกระทั่งถึงวันสิ้นสุดสัญญา หรือ Value of New Business (VONB) อยู่ที่ 7,325 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 31% โดยอัตรากำไรของ VONB หรือ VONB Margin ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง และมีมูลค่าปัจจุบันของกรมธรรม์ (Embedded Value) ที่ 145,170 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า 2% ซึ่งเป็นผลจากการเติบโตของ APE และ VONB ในทุกช่องทางการขาย

“บริษัทฯ มีกำไรสุทธิสูงเป็นประวัติการณ์เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งผลประกอบการที่เติบโตสูง สะท้อนความสำเร็จในการดำเนินธุรกิจตามกลยุทธ์ Multi-Channel และการพัฒนาสู่ดิจิทัล หรือ Digital Transformation ของบริษัทฯ โดยช่องทางตัวแทนฯ มีการพัฒนาเครื่องมือดิจิทัลสำหรับการขายและการดูแลลูกค้าที่มีประสิทธิภาพ ได้แก่ แอปพลิเคชัน MDA PLUS รวมถึงมุ่งเน้นการขายผลิตภัณฑ์ที่มีผลกำไรที่ยั่งยืน ขณะที่ช่องทางพันธมิตรยังคงแข็งแกร่ง โดยบริษัทฯ พัฒนาเครื่องมือการขายดิจิทัล และปรับปรุงประสิทธิภาพของระบบปฏิบัติการเพื่อสนับสนุนการขยายตลาดของพันธมิตร” นายไชยกล่าว

สำหรับกลยุทธ์ด้านผลิตภัณฑ์ บริษัทฯ มุ่งพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่สามารถตอบสนองความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไปของลูกค้าแบบเฉพาะบุคคล ตามนโยบายยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง และให้ความสำคัญกับผลิตภัณฑ์ที่สามารถสร้างกำไรที่ดี และไม่อ่อนไหวต่อการเปลี่ยนแปลงของอัตราดอกเบี้ย เช่น ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนร่วมในเงินปันผล หรือ Participating Product ผลิตภัณฑ์ควบการลงทุน และสัญญาเพิ่มเติม ซึ่งจะช่วยรักษาความสามารถในการทำกำไรของบริษัทฯ ท่ามกลางความผันผวนของเศรษฐกิจ

นายไชยกล่าวเพิ่มเติมว่า แม้ว่าในปีที่ผ่านมาอัตราการเรียกร้องสินไหมค่ารักษาพยาบาลจากโควิด-19 จะสูงขึ้น แต่ไม่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินงาน เนื่องจากไทยประกันชีวิตไม่มีการขายผลิตภัณฑ์ประกันโควิด-19 ประเภทเจอจ่ายจบ และการเรียกร้องสินไหมค่ารักษาพยาบาลจากโควิด-19 เริ่มลดลงในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2565 นอกจากนี้อัตราส่วนเงินกองทุน (CAR Ratio) ของบริษัทฯ ยังคงแข็งแกร่งอยู่ที่ 420% ณ เดือนธันวาคม 2565 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) กำหนดไว้มาก

และเพื่อให้การดำเนินธุรกิจของไทยประกันชีวิตเป็นไปอย่างยั่งยืน สอดรับกับวิสัยทัศน์มุ่งสู่การเป็นบริษัทประกันชีวิตแห่งความยั่งยืน บริษัทฯ จึงได้จัดทำแผนแม่บทการพัฒนาสู่ความยั่งยืน โดยครอบคลุมเป้าหมาย ESG ทั้งในด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล ผ่านการกำหนดเป็นกลยุทธ์และแนวทางการปฏิบัติครอบคลุมทุกหน่วยงานภายในบริษัทฯ ขณะเดียวกันยังให้ความสำคัญกับการลงทุนอย่างยั่งยืน (Sustainable Investment) อีกด้วย

No comments:

Post a Comment

Post Bottom Ad





Pages