
นายวิษณุ กล่าวต่อว่า ผลจากการทำงานมากกว่า 15 ปี พบว่า ธรรมเนียมปฏิบัติของสังคมไทยในช่วงงานลอยกระทงเปลี่ยนแปลงไปมาก ประชาชนและนักท่องเที่ยวร้อยละ 80 เข้าใจวิถีการปฏิบัติตน เมื่อมาท่องเที่ยวในงานประเพณีหรือเทศกาลที่จัดขึ้นในพื้นที่สาธารณะ โดยจะไม่ถือหรือนำเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เข้ามา ซึ่งช่วยให้ดูแลความสงบ เรียบร้อยในงานได้ดีขึ้น โดยเฉพาะในการจัดงานใหญ่ๆ ไม่ว่าจะเป็นจังหวัดท่องเที่ยว 99 แห่ง ทั่วประเทศ และ 33 จุดในกรุงเทพมหานคร ที่สคล.และ สสส. เข้าไปสนับสนุนการจัดงานปลอดเหล้า อย่างไรก็ตาม ต้องระวัง และจับตาการตลาดจากธุรกิจแอลกอฮอล์ที่จะเข้ามาส่งเสริมให้เกิดการดื่มการขายในพื้นที่จัดงานในรูปแบบลานเบียร์ เพราะสถานการณ์โควิดเริ่มคลี่คลาย ผู้คนอึดอัดมานาน จึงอาจเป็นช่องทางในการส่งเสริมการขาย ซึ่งจะตามมาด้วยอุบัติเหตุและอันตรายในพื้นที่ที่ขาดการควบคุมได้
ด้าน ดร.นุชากร มาศฉมาดล รองนายกเทศมนตรีเมืองร้อยเอ็ด กล่าวว่า ในการจัดงานเทศกาลต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นปีใหม่ สงกรานต์ หรือลอยกระทงของเทศบาลเมืองร้อยเอ็ดได้ร่วมกับ สสส. และสคล. ในการจัดงานบุญปลอดเหล้า ปลอดปัจจัยเสี่ยงอย่างเข้มข้นมาอย่างต่อเนื่องเป็นสิบๆ ปี อย่างเทศกาลลอยกระทง ปีนี้จะมีการจัดงาน 2 วันคือวันที่ 7- 8 พฤศจิกายน มีทั้งขบวนแห่ การประกวดธิดาสระเกศ มีดนตรีมหรสพได้ตามปกติแต่ และในวันที่ 8 พฤศจิกายนจะมีนายวรวุฒิ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มาเปิดงานให้ด้วยเนื่องจากการจัดงานของเราจะเน้นในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ทั้งนี้จะมีมาตรการคุมเข้มไม่ให้มีการจุดพลุ ปล่อยโคมลอย และห้ามจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ภายในพื้นที่การจัดงาน บริเวณบึงพลาญชัยและบริเวณโดยรอบ นอกจากนี้ยังมีการจัดเจ้าหน้าที่กวดขันตรวจสอบพื้นที่เสี่ยงต่างๆ และบุคคลเสี่ยง เช่น หากพบว่ามีคนเมาครองสติไม่ได้ จะเชิญให้ออกไปสงบสติอารมณ์นอกพื้นที่จัดงาน เพื่อป้องกันปัญหาความรุนแรง ซึ่งที่ผ่านนมาก็จัดเช่นนี้และได้ผลดีประชาชนและนักท่องเที่ยวให้ความร่วมมือดี.
No comments:
Post a Comment