


ส่วนการส่งออกกุ้งเดือน ม.ค. – ต.ค. ปีนี้ ปริมาณ 122,208 ตัน มูลค่า 42,812 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2564 ที่ส่งออกปริมาณ 128,758 ตัน มูลค่า 39,251 ล้านบาท ปริมาณลดลง ร้อยละ 5 แต่มูลค่า เพิ่มขึ้น ร้อยละ 9 (ดังแสดงในตารางที่ 2) นายกสมาคมกุ้งไทย กล่าว และคาดการณ์ว่า ไทยจะผลิตกุ้งได้ 300,000 ตัน ในปี 2566 (เพิ่มขึ้นร้อยละ 7)
นายปกครอง เกิดสุข อุปนายกสมาคมกุ้งไทย และประธานที่ปรึกษาชมรมผู้เลี้ยงกุ้งจังหวัดกระบี่ กล่าวถึงสถานการณ์การเลี้ยงกุ้งภาคใต้ตอนล่างฝั่งอันดามันว่า ผลผลิตปี 2565 คาดการณ์ว่ามีผลผลิตประมาณ 58,200 ตัน ลดลงจากปีที่ผ่านมาประมาณร้อยละ 2 พบการเสียหายโรคตัวแดงดวงขาวจำนวนมากในช่วงต้นปี และเชื้ออีเอชพีและโรคขี้ขาว ยังเป็นปัญหาสำคัญ ทำให้เกษตรกรจับกุ้งก่อนกำหนด เกษตรกรบางส่วนที่เลี้ยงกุ้งขาวไม่ประสบความสำเร็จ โดยเฉพาะในพื้นที่ จ.ตรัง กระบี่ พังงา และภูเก็ต เปลี่ยนไปเลี้ยงกุ้งกุลาดำมากขึ้น
นางสาวพัชรินทร์ จินดาพรรณ นายกสมาคมกุ้งตะวันออกไทย และเลขาธิการสมาคมกุ้งไทย กล่าวว่า ผลผลิตกุ้งปี 2565 ในพื้นที่ภาคตะวันออกประมาณ 69,900 ตัน เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาร้อยละ 12 โดยสภาวะอากาศแปรปรวนในช่วงต้นปี ส่งผลให้เกิดความเสียหายจากโรคตัวแดงดวงขาว และฝนที่มาเร็วกว่าปกติและตกหนัก ส่งผลกระทบต่อการเลี้ยง บางพื้นที่เกิดน้ำท่วม และหลังน้ำลดเกิดปัญหาโรคระบาดหัวเหลืองและตัวแดงดวงขาวตามมา เกษตรกรบางส่วนชะลอการลงกุ้งเนื่องจากแหล่งน้ำธรรมชาติมีความเต็มต่ำ คุณภาพน้ำไม่เหมาะสม นอกจากนี้ พบอาการขี้ขาวในบ่อกุ้งระหว่างเลี้ยง ทำให้ต้องจับกุ้งก่อนกำหนด ผลผลิตต่อไร่ต่ำ
ส่วนผลผลิตภาคกลาง ประมาณ 34,100 ตัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 3 เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา เกษตรกรมีการลงกุ้งอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากราคากุ้งดี สภาพอการแปรปรวนช่วงต้นปี ส่งผลให้เกิดโรคหัวเหลืองและตัวแดงดวงขาว รวมถึงปัญหาขี้ขาวทำให้เกษตรกรจับกุ้งก่อนกำหนด นอกจากนี้ปัจจัยการผลิตราคาปรับตัวสูงขึ้น ทำให้ต้นทุนการผลิตของเกษตรกรสูงขึ้น
นางสาวพัชรินทร์ จินดาพรรณ นายกสมาคมกุ้งตะวันออกไทย และเลขาธิการสมาคมกุ้งไทย กล่าวว่า ผลผลิตกุ้งปี 2565 ในพื้นที่ภาคตะวันออกประมาณ 69,900 ตัน เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาร้อยละ 12 โดยสภาวะอากาศแปรปรวนในช่วงต้นปี ส่งผลให้เกิดความเสียหายจากโรคตัวแดงดวงขาว และฝนที่มาเร็วกว่าปกติและตกหนัก ส่งผลกระทบต่อการเลี้ยง บางพื้นที่เกิดน้ำท่วม และหลังน้ำลดเกิดปัญหาโรคระบาดหัวเหลืองและตัวแดงดวงขาวตามมา เกษตรกรบางส่วนชะลอการลงกุ้งเนื่องจากแหล่งน้ำธรรมชาติมีความเต็มต่ำ คุณภาพน้ำไม่เหมาะสม นอกจากนี้ พบอาการขี้ขาวในบ่อกุ้งระหว่างเลี้ยง ทำให้ต้องจับกุ้งก่อนกำหนด ผลผลิตต่อไร่ต่ำ
ส่วนผลผลิตภาคกลาง ประมาณ 34,100 ตัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 3 เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา เกษตรกรมีการลงกุ้งอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากราคากุ้งดี สภาพอการแปรปรวนช่วงต้นปี ส่งผลให้เกิดโรคหัวเหลืองและตัวแดงดวงขาว รวมถึงปัญหาขี้ขาวทำให้เกษตรกรจับกุ้งก่อนกำหนด นอกจากนี้ปัจจัยการผลิตราคาปรับตัวสูงขึ้น ทำให้ต้นทุนการผลิตของเกษตรกรสูงขึ้น

นายปรีชา สุขเกษม กรรมการสมาคมกุ้งไทย กล่าวว่า ผลผลิตกุ้งภาคใต้ตอนล่างฝั่งอ่าวไทย 28,400 ตัน ลดลงร้อยละ 21 อีเอชพีและขี้ขาว เป็นปัญหาสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อการเลี้ยงของเกษตรกรตลอดปี ทำให้ผลผลิตลดลงมาก และเกษตรกรต้องจับกุ้งก่อนกำหนด ตัวแดงดวงขาวระบาดรุนแรงในช่วงต้นปี ฝนที่ตกหนักส่งผลให้น้ำในแหล่งน้ำธรรมชาติ มีความเค็มต่ำ ทำให้การเลี้ยงประสบปัญหามากกว่าทุกปี เกษตรกรต้องปรับตัวโดยการพักบ่อนานขึ้น ทยอยการปล่อยกุ้ง และลดความหนาแน่นในการเลี้ยง เพื่อลดความเสี่ยง
“ในช่วงต้นปีที่สมาคมกุ้งไทย และตัวแทนอุตสาหกรรมการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำและอุตสาหกรรมเกี่ยวเนื่องตลอดสายห่วงโซ่การผลิต ได้เข้าพบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และต่อมาได้ยื่นหนังสือ ถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพื่อขอให้สินค้ากุ้งเป็นวาระแห่งชาติ และออกมาตรการแก้ปัญหาการเลี้ยงเรื่องโรคให้พี่น้องเกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงกุ้งเร่งด่วน เพื่อพลิกฟื้น สร้างความเข้มแข็ง ให้อุตสาหกรรมกุ้งไทยทั้งระบบอย่างเป็นรูปธรรม โดยมีเป้าหมายคือ วัตถุดิบกุ้ง 400,000 ตัน เพื่อการส่งออก ให้ได้ในปี 2566 โดยเฉพาะการแก้ปัญหาเรื่องโรคซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้พี่น้องเกษตรกรฯ เลี้ยงกุ้งไม่ได้ แต่จากตัวเลขผลผลิตกุ้งในปี 2565 ก็ชี้ให้เห็นว่า ถึงแม้จะรัฐบาลโดยกรมประมงมีความพยายามดำเนินการในหลายด้าน แต่อาจด้วยข้อจำกัด ทำให้การแก้ปัญหาที่ผ่านมาไม่ตอบโจทย์ โรคกุ้งยังคงเป็นปัญหาใหญ่ที่สร้างความเสียหายให้กับเกษตรกร
สมาคมกุ้งไทยจึงขอเสนอไปยังพรรคการเมืองทุกพรรคในการเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึงในปีหน้า ให้เห็นความสำคัญของอุตสาหกรรมกุ้งไทยที่เคยเป็นอุตสาหกรรมอันดับหนึ่งทำรายได้เข้าประเทศปีละเกือบแสนล้าน มีผู้ประกอบการและผู้เกี่ยวข้องตลอดห่วงโซ่อุปทานทั้งทางตรงทางอ้อมและครอบครัวกว่า 1 ล้านคน แต่ 10 กว่าปี หลังเกิดโรคระบาดในกุ้ง อุตฯกุ้งไทย สูญเสียโอกาส-รายได้จากการส่งออกถึง 500,000 ล้านบาท ดังนั้น พรรคการเมืองที่จะมาเป็นรัฐบาลหน้า จะต้องกำหนดเป็นนโยบายด้านเศรษฐกิจที่สำคัญ เพื่อแก้ปัญหาโดยเฉพาะโรคกุ้ง พลิกฟื้น พัฒนาสร้างความเข้มแข็งอย่างยั่งยืน ให้กับอุตสาหกรรมกุ้งไทย เพื่อให้เป็นอุตสาหกรรมที่สร้างรายได้เข้าประเทศปีละเกือบแสนล้าน/กว่าแสนล้านบาทให้ได้ เพื่อเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมหลักที่ขับเคลื่อนด้านเศรษฐกิจของประเทศไทย เหมือนที่เป็นมาก่อนเผชิญปัญหาโรคระบาดให้ได้” นายกสมาคมกุ้งไทย กล่าวทิ้งท้าย./
No comments:
Post a Comment