


“TCMA ยังคงเดินหน้าทำงานในเชิงรุก ทั้งการขับเคลื่อนในเวทีสำคัญๆ ระหว่างประเทศ และการบูรณาการความร่วมมือกับภาคส่วนต่างๆ ภายในประเทศ เพื่อขับเคลื่อนอุตสาหกรรมปูนซีเมนต์ของไทยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลงอย่างต่อเนื่อง ภายใต้ Thailand 2050 Net Zero Cement & Concrete Roadmap ซึ่งเป็นประเทศแรกของโลกที่มี Roadmap มีเป้าหมายดำเนินงานที่ชัดเจน สอดคล้องกับ Thailand NDC และทิศทางอุตสาหกรรมซีเมนต์และคอนกรีตของโลก Global Cement and Concrete Association (GCCA) และมีการขับเคลื่อนอย่างเป็นรูปธรรม ตั้งเป้าลดลงครึ่งหนึ่งภายในปี 2030 และสู่หมุดหมายสำคัญ Net Zero ภายในปี 2050
โดยที่ “ความร่วมมือและการลงมือทำ” เป็นปัจจัยสำคัญสู่การบรรลุเป้าหมาย TCMA จึงพร้อมร่วมมือทำงานกับทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ภาควิชาชีพ ภาคอุตสาหกรรม ภาคการศึกษา ทั้งในและต่างประเทศ ผ่านแนวทางความร่วมมือภาครัฐ-ภาคเอกชน (Public-Private Partnership: PPP) โดยให้จังหวัดสระบุรี เป็นเมืองต้นแบบ เรียกว่า “PPP-Saraburi Sandbox: A Low Carbon City” เพื่อร่วมมือกันดำเนินการในด้านต่างๆ ทั้งด้านการพัฒนาเทคโนโลยี วิจัยนวัตกรรม กฎระเบียบ การสร้างความรู้ความเข้าใจ คิดค้นกระบวนการใหม่ๆ ตลอดจนแสวงหาแหล่งทุน ที่จะเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานให้บรรลุเป้าหมาย ควบคู่ไปการสร้างสมดุลด้านสิ่งแวดล้อมเพื่อการเติบโตที่ยั่งยืน ก่อนขยายผลไปยังจังหวัดอื่นต่อไป” ดร. ชนะ กล่าว
การประชุมวิชาการนานาชาติว่าด้วยเคมีของซีเมนต์ (ICCC) เป็นเวทีวิชาการสำคัญระดับโลก ที่จัดต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 1918 กระตุ้นให้เกิดการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้/ ประสบการณ์ระหว่างผู้เชี่ยวชาญจากทั่วโลกและเชื่อมโยงความร่วมมือ ระหว่างงานวิจัยและนวัตกรรม สู่ภาคอุตสาหกรรมซีเมนต์และคอนกรีต“นับเป็นโอกาสอันดีที่ประเทศไทย โดยสมาคมคอนกรีตแห่งประเทศไทย ได้รับคัดเลือกให้จัดการประชุม ICCC 2023 ซึ่งครั้งนี้ ได้รับเกียรติจาก 29 ผู้เชี่ยวชาญทั่วโลก ร่วมกันนำเสนอทิศทางและบทบาทที่สำคัญของซีเมนต์และคอนกรีตที่มีส่วนช่วยลดก๊าซเรือนกระจก และมีการนำเสนอเอกสารวิชาการ 550 ฉบับ ครอบคลุม 1) Future of the construction 2) New dimensions in clinker production 3) Advances in hydration chemistry 4) Enhancing clinker substitution / Supplementary Cementitious Materials 5) Advances in characterization methods & modelling

6) New low carbon cements and carbonatable binders 7) New findings in admixture & rheology 8) New technology for quality concrete 9) Durability & reactive transport 10) Sustainability, circular economy, waste processing and recycling และ 11) Standardization of cement and concrete ซึ่งนอกจากจะเป็นการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และประสบการณ์ระหว่างกัน ช่วยสร้างโอกาสความร่วมมือในการยกระดับพัฒนาคุณภาพซีเมนต์และคอนกรีตให้สามารถตอบสนองวัตถุประสงค์การใช้งาน รวมถึงสามารถตอบโจทย์ต่อสถานการณ์ของโลกด้านลดก๊าซเรือนกระจกอย่างมีนัยสำคัญอีกด้วย” ดร. ชนะ เพิ่มเติม
No comments:
Post a Comment