จังหวัดราชบุรี การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานราชบุรี อำเภอโพธาราม และวัดขนอน ร่วมจัดงาน “เทศกาลหนังใหญ่วัดขนอน ครั้งที่ ๑๖” กลับอีกครั้งอย่างยิ่งใหญ่ พร้อมพันธมิตรทางวัฒนธรรม ๔ ภาค ชมการแสดงหนังใหญ่ไฟกะลา โขนติดตัวหนัง ตอนที่ชื่อว่า “จองถนน ข้ามสมุทร และเกษียณสมุทร” เต็มอิ่มกับการแสดงพื้นบ้าน กิจกรรมและการสาธิต งานศิลปะช่างสิบหมู่ เดินชมตลาดริมน้ำแม่กลองด่านขนอน ฯลฯ จัดขึ้นสงกรานต์ ๑๓-๑๔ เมษายนนี้ ณ วัดขนอน อ.โพธาราม จ.ราชบุรี
พระครูพิทักษ์ศิลปาคม เจ้าอาวาสวัดขนอน (กลาง) / ครูจฬรรณ์ ถาวรนุกูลพงษ์ (ซ้าย)
สุรินทร์ ยังเขียวสด ศิลปิน และผู้บริหารนาฏยศาลา หุ่นละครเล็ก (โจหลุยส์) (ขวา)
พระครูพิทักษ์ศิลปาคม เจ้าอาวาสวัดขนอน กล่าวถึงการจัดงานเทศกาลหนังใหญ่วัดขนอน ครั้งที่ ๑๖ ประจำปี ๒๕๖๖ ว่า ตลอดเวลา ๓ ปี หลังจากสถานการณ์ โควิด ๑๙ ที่ระบาดไปทั่วโลก ทำให้งานด้านศิลปะวัฒนธรรมต้องชะลอตัวลง และเมื่อสถานการณ์กลับมาสู่ภาวะปกติ นับเป็นโอกาสอันดีที่ในปีนี้ จังหวัดราชบุรี โดยอำเภอโพธาราม จังหวัดราชบุรี การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานราชบุรี วัดขนอน และวัฒนธรรมจังหวัด ได้ร่วมจัด “งานเทศกาลหนังใหญ่วัดขนอนครั้งที่ ๑๖” พร้อมด้วยการแสดงประเพณีวัฒนธรรม ๔ ภาค และกิจกรรม การสาธิต ภายใต้คอนเซปต์ “คืนความยิ่งใหญ่...มรดกไทยไปมรดกโลก” มีกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ ๑๓-๑๔ เมษายน ๒๕๖๖ ณ วัดขนอน อ.โพธาราม จ.ราชบุรี
ทั้งนี้ คณะผู้จัดงานฯ ได้ตระหนัก และมีแนวคิดในการอนุรักษ์งานแสดงที่เป็นอัตลักษณ์ของไทย โดยเปิดเวที “งานเทศกาลหนังใหญ่วัดขนอน” มาแสดงร่วมกันอย่างยิ่งใหญ่ผสมผสานกันอย่างลงตัว เช่น การแสดงหนังใหญ่ไฟกะลา การแสดงเป็นโขนติดตัวหนัง โดย ครูจฬรรณ์ ถาวรนุกูลพงษ์ ครูสอนการแสดงหนังใหญ่และครูช่างแกะหนังใหญ่ ขับเคลื่อนตามเนื้อเรื่องด้วยบทพากย์ บทขับร้อง ดนตรีปี่พาทย์ ผสมผสานระหว่างหนังใหญ่และโขน ศิษย์บัณฑิตพัฒนศิลป์ ในตอนที่ชื่อว่า “จองถนน ข้ามสมุทร และเกษียณสมุทร” ทำให้เกิดความเข้าใจในเรื่องราว และให้อรรถรสทางศิลปะแก่ผู้ชมและนักท่องเที่ยวได้อย่างสมบูรณ์ และยังมีการการแสดงนาฏยศาลา หุ่นละครเล็ก โจหลุยส์ การแสดงโนราห์ หนังตะลุง และดิเกร์ฮูลู ของอาจารย์วาที ทรัพย์สิน ทายาทของครูหนังตะลุง สุชาติ ทรัพย์สิน ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดงปี ๒๕๔๙ การแสดงกฤษฎิ์ทีม (กฤษฏิ์ ชัยศิลบุญ) ศิลปินผู้สืบสานภูมิปัญญาไทยวน-ล้านนา การแสดงศิลปะร่วมสมัยจัดแสดงในรูปแบบโบราณ ละครหุ่นคนแม่เพทาย (กลุ่มเยาวชน) เป็นต้น
“ภายในงานยังได้จัดให้มีการแสดงทางด้านศิลปวัฒนธรรม การแสดงพื้นบ้าน การสาธิต งานศิลปะช่างสิบหมู่ กิจกรรมการแสดงที่เกี่ยวข้องกับศิลปะ และวัฒนธรรมไทยหลากหลายแขนงแวดล้อมด้วยบรรยากาศของวิถีไทยแบบชุมชนพื้นถิ่น นอกจากนี้ยังมี “ตลาดด่านขนอน” จำลองเก็บรักษาวิถีชีวิตชุมชนด่านขนอน เลือกซื้อสินค้าและผลิตภัณฑ์ชุมชน อาหารพื้นบ้าน บริเวณริมน้ำแม่กลอง โดยมี ธนาคารแลกเบี้ย เป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ ผู้ชมงานจะแลกเบี้ยเก็บไว้เป็นที่ระลึก หรือสำหรับนำมาแลกซื้ออาหารพื้นถิ่น และผลิตภัณฑ์ชุมชน ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะภายในงานนี้เท่านั้นศูนย์วัฒนธรรมเฉลิมราช รัชกาลที่ ๙ จัดแสดงภาพ และเรื่องราวเมื่อครั้งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๙ เสด็จประพาสจังหวัดราชบุรีในหลายๆช่วงเวลา กราบสักการะและขอพร "พระครูศรัทธาสุนทร หรือหลวงปู่กล่อม” ในสมัยรัชกาลที่ ๓ ท่านได้ร่วมกับครูอั๋ง ผู้ซึ่งมีความชำนาญด้านการเขียน การสลัก สร้างตัวหนังใหญ่ขึ้นมา นับเป็นจุดเริ่มต้นของคณะหนังใหญ่วัดขนอน ชมพิพิธภัณฑ์หนังใหญ่วัดขนอน ณ หมู่เรือนไทยหลังใหญ่ มีการจัดแสดงตัวหนังใหญ่ ซึ่งเป็นงานฝีมือชั้นยอดของช่างในยุคโบราณ งานศิลปะ อันทรงคุณค่าและงดงาม”
พระครูพิทักษ์ศิลปาคม กล่าวอีกว่า ตามที่กระทรวงวัฒนธรรมได้ประกาศขึ้นบัญชี “หนังใหญ่” เป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของชาติเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๕๒ และมีนโยบายที่จะผลักดัน “หนังใหญ่” ขึ้นทะเบียนต่อยูเนสโก ประกอบกับกรมส่งเสริมวัฒนธรรมได้มีการศึกษาวิจัยเรื่อง “หนังใหญ่และความเป็นไปได้ในการขอขึ้นทะเบียนในบัญชีการปกป้องคุ้มครองอันเป็นตัวอย่างที่ดีที่สุด (The best practice ) เมื่อปี พ.ศ.๒๕๖๔-๒๕๖๕ โดยมีชุมชนหนังใหญ่วัดขนอน จังหวัดราชบุรี เป็นพื้นที่ศึกษา ก่อให้เกิดกระบวนการถ่ายทอดการเรียนรู้และอนุรักษ์องค์ความรู้หนังใหญ่ และศิลปะพื้นบ้านให้สืบสานต่อไปอย่างยั่งยืน
สนใจเที่ยว “งานเทศกาลหนังใหญ่วัดขนอน ครั้งที่ ๑๖” มีกำหนดจัดงานขึ้นระหว่างวันที่ ๑๓ - ๑๔ เมษายน ๒๕๖๖ ตั้งแต่เวลา ๑๕.๐๐ - ๒๑.๓๐ น. ณ วัดขนอน ตำบลสร้อยฟ้า อำเภอโพธาราม จังหวัดราชบุรี สอบถามเพิ่มเติมได้ที่วัดขนอน โทร. ๐๘๕ ๕๕๕ ๔๑๙๕ และ ๐๘๙ ๔๕๙ ๖๗๓๒ หรือติดตามได้ที่ เฟสบุคส์ www.facebook.com/WatKhanonNangYai/?locale=th_TH “เทศกาลหนังใหญ่ฯ ได้ห่างหายจากการจัดงานไปนานถึง 3 ปี การกลับมาในครั้งนี้ เราคาดหวังจะช่วยส่งเสริมให้คนไทยหันมาสนใจหนังใหญ่มากขึ้น รวมทั้งรองรับการขึ้นทะเบียนต่อยูเนสโก หากดำเนินการสัมฤทธิ์ผลตามเป้าหมาย จะช่วยตอบสนองต่อนโยบายของกระทรวงวัฒนธรรม ในการผลักดันหนังใหญ่ไปสู่การยกย่องเชิดชูในระดับนานาชาติสู่การเป็นซอฟต์ พาวเวอร์ ที่จะทำให้คนทั่วโลกรู้จัก และสนใจในวัฒนธรรมไทยมากยิ่งขึ้น รวมทั้งจะช่วยส่งเสริมอุตสาหกรรมด้านการท่องเที่ยว ก่อให้เกิดรายได้แก่คนในชุมชน และห่วงโซ่ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับหนังใหญ่ในอนาคตต่อไป”
No comments:
Post a Comment