![](https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEiEpmyqLXCINeG8xDh-h64LbHQWklbks18wxku1O2QZx8WsOPeiuUXUg8zQhcriTdevAuGGO9QpfU5LbMpkRWZ7e-QKBDGRVzLG-d5JCIjzelfbPLaC41AZ9GxvI_NY5dZZs4IB_etYxCUXmQcIC_XZGIL65ajfEV-vVZHqO0ktPFAkGsbWFBJ7ZzEwjA/s16000/1666603058417.jpg)
![](https://hotspotstation111.com/wp-content/uploads/2022/10/1666603046923_800x599.jpg)
เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม 2565 นายมานพ แย้มอุทัย ผู้ทรงคุณวุฒิ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) เปิดเผยว่า สสส. ร่วมกับ สำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า (สคล.) กรมพลศึกษา และภาคีเครือข่าย ร่วมกันจัดเวทีประกวดนักพากย์เรือเยาวชนสร้างสุข ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ครั้งที่ 2 ณ แม่น้ำน่าน เชิงสะพานพัฒนาภาคเหนือ อำเภอเมือง จังหวัดน่าน เมื่อวันที่ 21 – 23 ตุลาคมที่ผ่านมา เพื่อเปิดพื้นที่สร้างสรรค์ให้เยาวชนได้แสดงความรู้ความสามารถ ส่งเสริมให้เยาวชนเป็นฑูตในการสื่อสารเรื่องเหล้าและปัจจัยเสี่ยงต่างๆ ทั้งนี้เพราะนักพากย์เรือเป็นสีสันที่สำคัญของงานแข่งเรือ และคนส่วนหนึ่งตั้งใจมาดูนักพากย์เรือมากกว่าการแข่งเรือ โดยการจัดงานครั้งนี้ มีการคัดเลือกนักพากย์เรือเยาวชนเข้าร่วมแข่งขัน 22 คน แบ่งเป็นการแข่งขันประเภทบุคคล และประเภททีม
![](https://hotspotstation111.com/wp-content/uploads/2022/10/1666603051810_1024x767.jpg)
ด้าน นายวิษณุ ศรีทะวงศ์ ผู้จัดการแผนพัฒนานโยบายสาธารณะและทุนอุปถัมภ์ สคล. กล่าวว่าสำหรับผลการแข่งขันประเภทบุคคล ผู้ชนะเลิศได้รับถ้วยรางวัลพระราชทาน สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพฯ พร้อมทุนการศึกษา 10,000 บาท ได้แก่นายภูพิพัฒน์ กิตินันท์ รางวัล รองชนะเลิศได้แก่ นายนันทกานต์ พรมศรี ด.ญ.ปริยฉัตร ปะระมะ และนายรักแท้ จานทอง ตามลำดับ
![](https://hotspotstation111.com/wp-content/uploads/2022/10/1666603083520_1024x576.jpg)
![](https://hotspotstation111.com/wp-content/uploads/2022/10/1666603041274_800x600.jpg)
ส่วนผลการแข่งขันประเภททีม โดยทีมที่ชนะเลิศได้ถ้วยรางวัลพระราชทาน สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพฯ พร้อมทุนการศึกษา 25,000 บาท ได้แก่ ทีมจากภาคเหนือ (จังหวัดน่าน) เยาวชนนักพากย์เรือประกอบด้วย เด็กชายณัฐประวุฒิ ชุมนันท์ เด็กชายศักรินทร์ ยาแก้ว นางสาวจิราธร กรีเรียน เด็กหญิงรุจิลักษณ์ ชัยสมทิพย์ นางสาวเขมอักษร ทิพย์ปัญญา ส่วนรองชนะเลิศ อันดับ 1 ได้แก่ทีมจากภาคใต้ (จังหวัดชุมพร) และ รางวัลรองชนะเลิศ ได้แก่ทีมจากภาคอีสาน (จังหวัดสุรินทร์)
“ผมขอเป็นกำลังให้นักพากย์เรือสร้างสุขในการพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง ที่ผ่านมาได้มีนักพากย์เรือเยาวชนได้เข้ามาเรียนรู้การเป็นนักพากย์เรือเยาวชนสร้างสุข แล้วพัฒนาตนเองไปสู่การทำงานด้านสื่อมวลชน เช่น น้องออมสินจากจังหวัดน่าน ที่เป็นนักจัดรายการวิทยุแล้ว และยังมีน้องๆ ลูกศิษย์ของอาจารย์สุรเชษฐ์ โพธิ์อ่อน อีก 2 คน ที่เคยเข้าร่วมการแข่งขันพากย์เรือเยาวชนกับ สคล. ตอนนี้ก็พัฒนาเป็นนักพากย์กีฬาฟุตบอล และพากย์กีฬาต่างๆ แล้ว เราจึงคาดว่าในอนาคตนักพากย์เรือเยาวชนจะพัฒนารูปแบบการพากย์ที่เป็นตัวของตัวเองมากขึ้น และจะทำให้เยาวชนทันมาให้ความสำคัญกับประเพ ณีแข่งเรือยาวมากขึ้น” นายวิษณุ กล่าว
ด้าน น.ส.เขมอักษร ทิพย์ปัญญา ตัวแทนนักพากย์เรือเยาวชนภาคเหนือที่ชนะการประกวด กล่าวว่า การเข้าร่วมประกวดนักพากย์เรือเยาวชนสร้างสุข กับ สคล. ทำให้ตนและทีมเป็นที่รู้จักและได้รับเชิญให้พากย์เรือในสนามแข่งขันในจังหวัดน่าน เฉลี่ยปีละ 8 สนามและได้โอกาสในการเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ กับ สคล. เช่น การเข้าค่ายพัฒนาศักยภาพนักพากย์ที่สมุทรสาคร พัฒนาการใช้ภาษาไทยกลางในการพากย์เรือ นอกจากนี้ยังได้โอกาสเข้าค่ายพัฒนาศักยภาพเครือข่ายเยาวชน “Y-SDN”
ขณะที่ นายภูพิพัฒน์ กิตินันท์ ผู้ชนะเลิศในประเภทเดี่ยว กล่าวว่า การเป็นนักพากย์เรือเยาวชนสร้างสุขนอกจากจะทำให้เป็นที่รู้จักแล้ว ยังเป็นการฝึกความรับผิดชอบ คือต้องหาข้อมูลและเตรียมตัวในการพากย์เรือให้ออกมาดีที่สุด รวมถึงต้องบริหารเวลาในการเรียนให้ดีที่สุดเช่นกัน.
No comments:
Post a Comment