

“ขอเชิญชวนคนไทยทั้งประเทศร่วมฟังดนตรีในวันนี้ สำหรับคนที่โชคดีที่มารับฟังถึงวัดพระธาตุลำปางหลวง ขอให้ได้รับบุญกุศล ความปรารถนาดีจากดนตรี จากนักร้อง จากกระทรวงอว. ได้ด้วย ถือว่าเป็นการส่งสิ่งที่ดีที่สุดของกระทรวง อว. สู่ท่านที่รับชม ท่านผู้ชมที่มาชมการแสดงสด สำหรับท่านส่วนใหญ่ที่เตรียมดูและรับชมผ่านสถานีโทรทัศน์ ThaiPBS ท่านก็สามารถรับชมรับฟังได้เช่นกัน ซึ่งดนตรีถือเป็นสมบัติที่มีค่า ที่บรรพชนได้มอบไว้ให้แก่เรา เป็นสมบัติของทุกคน ไม่ใช่แค่ของคนภาคเหนือเท่านั้น และจะกลายเป็นพื้นฐานที่สำคัญ ซึ่งผมเชื่อว่าจะทำให้ดนตรีไทยให้เป็นดนตรีโลกไม่ยาก เพราะเรามีของดี” ดร.เอนก กล่าวทิ้งท้าย
ดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง ผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ กล่าวว่า วัดพระธาตุลำปางหลวง เป็นวัดที่เก่าแก่ของภาคเหนือและเป็นวัดสำคัญของจังหวัดลำปาง เป็นที่ตั้งของชุมชนเก่าแก่กว่า 1,300 ปี มีการวางรากฐานของบ้านเมือง คูเมือง กำแพงเมือง มีผู้คนและมีเจ้าเมือง มีวัดพระธาตุลำปางหลวงเป็นศูนย์กลางของเมืองลำปาง เป็นศูนย์บัญชาการการปกครองในอดีต เพราะวัดพระธาตุลำปางหลวงเป็นหัวใจของเมือง และเป็นวัดหลวงของเมืองลำปาง เป็นพื้นที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ เป็นการศึกษาเพื่อค้นคว้าเรื่องของเสียงดนตรีที่ยังหลงเหลือร่องรอยทางประวัติศาสตร์ แล้วนำเสียงมาสร้างจินตนาการใหม่ การนำเสียงของวัฒนธรรมเมืองเหนือ เสียงซึง เสียงปี่จุม เสียงไม้ไผ่ และเสียงกลอง เป็นเสียงที่มีอยู่แล้วโดยการเลียนแบบจากเสียงธรรมชาติ (Acoustic) มาใช้เป็นเสียงดนตรี ซึ่งเป็นบริบทที่สำคัญของชุมชน ที่จะมีการพัฒนาให้เป็นมาตรฐานที่สามารถสื่อสารออกไปสู่สากลได้
นับเป็นวัฒนธรรมที่ทรงคุณค่าและสร้างสรรค์ (Soft Power) ซึ่ง วช. ได้สนับสนุนการวิจัยเพื่อสร้างองค์ความรู้ในงานศาสตร์และศิลป์ ด้วยการทำงานวิจัยที่วัดพระธาตุลำปางหลวง จึงเป็นพื้นที่ทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญต่อการใช้กลไกการแสดงดนตรีและการถ่ายทอดผ่านบทเพลง เพื่อก่อให้เกิดความเข้าใจในโบราณคดี ประวัติศาสตร์ ความภูมิใจในศิลปวัฒนธรรมและอัตลักษณ์ พร้อมกับเป็นพื้นที่ที่นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศจะเข้ามาร่วมชื่นชมอัตลักษณ์ของท้องถิ่น และเป็นSoft power อย่างยั่งยืน
ด้าน รองศาสตราจารย์ ดร.สุกรี เจริญสุข หัวหน้าโครงการวิจัย มูลนิธิอาจารย์สุกรี เจริญสุข เปิดเผยว่า การแสดงดนตรีเสียงใหม่ที่วัดพระธาตุลำปางหลวง ได้รับเกียรติจากอาจารย์เนาวรัตน์ พงศ์ไพบูลย์ ศิลปินแห่งชาติ ร่วมอ่านบทกวี มีบทเพลงที่เกี่ยวข้องกับจังหวัดลำปางขับร้องโดย กมลพร หุ่นเจริญ พร้อมศิลปินพื้นบ้านลำปาง เป็นจำนวนมาก เลือกพื้นที่วัดพระธาตุลำปางหลวงเป็นสถานที่จัดงานเพื่อที่จะนำกลิ่น เสียง และวิญญาณของประวัติศาสตร์ที่ยังเหลือร่องรอยอยู่ในเพลงที่มีการปกของเชียงใหม่กระทั่งถึงสมัยเจ้าทิพย์ช้างสามารถขับไล่พม่าออกจากลำปางได้ และขึ้นครองลำปางเมื่อปี พ.ศ. 2279 ต่อมา พ.ศ. 2307 เจ้าแก้วฟ้าโอรสของเจ้าทิพย์ช้างได้ครองนครลำปางเป็นต้นตระกูลของคนในปัจจุบัน ตระกูล ณ ลำปาง ณ เชียงใหม่ ณ ลำพูน วิถีชีวิตผู้คนและดนตรีของชาวลำปางดั้งเดิมเหลืออยู่กับชาวบ้าน ชาวดอย และผู้เฒ่า จากการที่ลำปางดั้งเดิมมีเผ่าพันธุ์ที่หลากหลายจึงทำให้ดนตรีพื้นบ้านน่าสนใจศึกษาโดยวัดพระธาตุลำปางเป็นวัดโบราณที่เป็นศูนย์รวมจิตใจของผู้คนในชุมชนมาอย่างยาวนาน และเป็นคลังความรู้เป็นมรดกล้ำค่ามาก “เสียงใหม่โดยวงไทยซิมโฟนีออเครสตร้าเป็นการย้อนร่องรอยในอดีตด้วยเสียงดนตรี เพราะลำปางเป็นพื้นที่ประวัติศาสตร์ที่ยังมีชีวิตอยู่” รศ.ดร.สุกรีฯ กล่าวย้ำ
ในโอกาสนี้การแสดงดนตรีเสียงใหม่ที่วัดพระธาตุลำปางหลวง โดย วงไทยซิมโฟนีออร์เคสตร้า (Thai Symphony Orchestra) พร้อมด้วยนักดนตรีและนักดนตรีพื้นบ้านกว่า 100 คน ในการนำเสนอเพลงต้นฉบับที่มีมาแล้วแต่ดั้งเดิมของเมืองเหนือผ่านการแสดงบทเพลง ลาวคลึง ลาวจ้อย ลาวดวงดอกไม้ ลาวเจริญศรี ลาวเสี่ยงเทียน ลาวครวญ ลาวเดินดง ลาวสวยรวย ลาวคำหอม ลาวกระทบไม้ แห่ดำหัวหรือแห่นำพล เก๊าห้า มอญลำปาง ลาวลำปาง-สร้อยลำปาง แล้งในอกหรือลาวคลึง มอญเจี๊ยหอย ลาวจ้อยหรือสร้อยแสงแดง ลาวเจริญศรี ลาวเสี่ยงเทียน ลาวเดินดง ลาวดวงดอกไม้ ลาวสวยรวย ลาวคำหอม ลาวกระทบไม้ ผีมดผีเม็ง ฤาษีหลงถ้ำ ล่องแม่ปิง ปราสาทไหว การแสดงวงปี่จุม สะล้อล้านนา เพลงปั่นฝ้าย กล่อมนางนอน แม่หม้ายเครือ ลาวเสด็จ พร้อมด้วยวงปล่อยแก่จังหวัดลำปางและจังหวัดเชียงใหม่ บรรเลงเพลงระบำ ร่ำเปิงลำปาง ล่องแม่ปิง หมู่เฮาจาวเหนือ และเพลงปล่อยแก่ นับเป็นการแสดงบทเพลงที่เข้าถึงผู้ฟังและสร้างความประทับใจให้กับผู้รับฟัง ซึ่งโครงการวิจัยดังกล่าวจะนำไปสู่การสร้างสรรค์ดนตรีควบคู่กับวัฒนธรรม ขนบธรรมเนียมประเพณี และความเชื่อ เป็นศิลปะในการสื่อสาร ถ่ายทอดอารมณ์ความรู้สึกต่าง ๆ ไปสู่ผู้ฟัง ดนตรีเป็นภาษาสากลที่ไม่ว่าจะเป็นชนชาติใด ภาษาใด ก็สามารถรับรู้ และเข้าใจอรรถรสของดนตรีได้ผ่านด้วยเสียงเพลง
No comments:
Post a Comment