เกษตรกรเลี้ยงหมู ผนึกกำลัง “อัจฉริยะ” ร้อง DSI ล้างบาง “หมูเถื่อน” - BIZTHAI POST

BIZTHAI POST

The Thai Biz Website

Breaking

Home Top Ad

Post Top Ad

Wednesday, August 9, 2023

เกษตรกรเลี้ยงหมู ผนึกกำลัง “อัจฉริยะ” ร้อง DSI ล้างบาง “หมูเถื่อน”

“หมูเถื่อน” ยังคงเป็นปัญหาใหญ่ในวงการเลี้ยงหมูของไทย จากที่ต้องแบกรับปัญหาต้นทุนผลิตสูง แต่กลับขายหมูได้ในราคาตกต่ำ  เพราะมีหมูเถื่อนแพร่ระบาดในท้องตลาดเป็นจำนวนมาก เรื่องนี้สมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ ได้จับมือ “อัจฉริยะ” ตบเท้ายื่นหนังสือกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) หวังล้างบาง “หมูเถื่อน” เร่งตรวจสอบเพิ่มตู้ตกค้างที่ท่าเรือแหลมฉบังอีก 400-1,000 ตู้ ที่เป็นตัวการสำคัญตัดราคาในประเทศ  

น.สพ.วิวัฒน์ พงษ์วิวัฒนชัย  อุปนายกสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ เผย ตัวแทนผู้เลี้ยงหมูทั่วประเทศ เข้าร้องต่อ DSI เร่งเอาผิดต้นตอลักลอบนำเข้าหมูเถื่อน ที่สร้างความเสียหายเกือบ 5 หมื่นล้านบาท หากไม่หยุดยั้ง ยิ่งจะสร้างความสูญเสียเพิ่มอีก เพราะขณะนี้เกษตรกรผู้เลี้ยงหมูมีต้นทุน 96 บาท แต่จำหน่ายเพียง 53 บาท พร้อมเร่งรัดการตรวจสอบกรณีพบหมูเถื่อน 400 ตู้คอนเทนเนอร์ ที่ท่าเรือแหลมฉบัง ซึ่งไม่นำเข้ากระบวนการตรวจสอบ เช่นเดียวกับหมูเถื่อนที่จับกุมได้ก่อนหน้านี้ 161 ตู้  เพื่อดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดตามกฎหมาย

นอกจากนี้ ยังเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าไปตรวจสอบหมูเถื่อนที่ลักลอบนำเข้ามา ผ่านทางท่าเรืออื่นๆ ด้วย ซึ่งตามเอกสารที่นายด่านศุลกากรได้ชี้แจง ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์-เมษายน พบว่า ยังมีตู้คอนเทนเนอร์หมูเถื่อนค้างอยู่ที่ท่าเรือแหลมฉบัง อีกกว่า 1,000 ตู้ ซึ่งในวันนี้ ได้นำหลักฐานที่รวบรวมได้มมอบให้ DSI เพื่อไปตรวจสอบ
น.สพ.วิวัฒน์ ย้ำว่า หมูเถื่อนจากต่างประเทศส่งผลกระทบเป็นวงกว้าง ไม่ใช่เฉพาะเกษตรกรผู้เลี้ยงหมูเท่านั้น แต่กระทบถึงผู้บริโภคด้วย เนื่องจากการตรวจสอบพบมีเชื้อที่อันตรายต่อคนและสัตว์ รวมถึงทำลายภาพลักษณ์ของประเทศไทย ที่พบการลักลอบนำเข้าหมูเถื่อนเข้ามาจำนวนมหาศาล
ขณะที่ นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงษ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากร ขอให้ DSI ตรวจตู้หมูเถื่อนที่ยังซุกซ่อนอยู่ที่ท่าเรือแหลมฉบังอีกหลายพันตู้ เพราะหลังจากจับกุมล็อตใหญ่ไปแล้ว 161 ตู้ จำนวนหมูเถื่อน 4.5 พันตัน ยังคงมีตู้หมูเถื่อนซุกซ่อนอยู่ที่ท่าเรือแหลมฉบังอีกมากกว่า 2,000 ตู้  สำหรับเป้าหมายสำคัญ คือ อยากขอให้ DSI ดําเนินคดีกับนายด่านท่าเรือไปจนถึงอธิบดีศุลกากร แต่เกรงว่าจะขัดต่อรูปคดีที่ดําเนินการอยู่ จึงขอให้ DSI ช่วยตรวจสอบหมูเถื่อนที่ยังตกค้างอยู่ที่ท่าเรือแหลมฉบัง

นายอัจฉริยะ บอกว่า ตนมีหลักฐานชัดเจน โดยหลังจากที่มีการเข้มงวดตรวจค้นที่ท่าเรือแหลมฉบังก็พบว่ามีการลักลอบออกมาทีละ 1-2 ตู้ และเปลี่ยนจากท่าเรือแหลมฉบังไปที่ท่าเรือคลองเตยแทน หมูเถื่อนเกิดขึ้นตั้งแต่ปลายปี 2564 จนถึงปัจจุบันและอีก 2 เดือนข้างหน้าหากยังไม่มีการแก้ไขหรือปราบปรามอย่างจริงจังเกษตรกรทั่วประเทศ “เจ๊ง” หมดอย่างแน่นอน ซึ่งจะส่งผลให้ประชาชนก็ได้รับหมูที่มีราคาแพงขึ้น
ตัวแทนเกษตรกรผู้เลี้ยงสุกร เผย ผู้เลี้ยงหมูทุกคนเดือดร้อนเป็นอย่างมากคาดว่าไม่เกิน 2 เดือน จะล่มสลาย จึงอยากขอให้เรื่องนี้จบโดยเร็ว ซึ่งได้ข้อมูลว่ามีการลอบนําเข้ามาอย่างหนักในภาคใต้ เพราะขึ้นง่ายมีทะเลทั้ง 2 ฝั่ง เมื่อระวังท่านี้ก็หนีไปขึ้นท่าอื่นๆ และก่อนหน้านี้ไทยมีเกษตรกรผู้เลี้ยงสุกรมากกว่า 200,000 ราย แต่ปัจจุบันเหลือเพียงแค่ 40,000 กว่ารายเท่านั้น และไม่อยากให้ประชาชนติดกับดักอยู่ที่การจับหมูเถื่อน 161 ตู้ เท่านั้น เพราะนั่นยังไม่ถึง 1% ของที่ลักลอบนำเข้าด้วยซ้ำ ที่เหลืออีกจํานวนมาก

“หมูเถื่อน” คือยาพิษแก้วใหญ่ที่จะส่งผลกระทบระยะยาวต่อเกษตรกรทั่วประเทศ วันนี้ทุกภาคส่วนต้องเร่งแก้ปัญหา เพื่อปกป้องอาชีพเกษตรกร ปกป้องความปลอดภัยอาหารให้ผู้บริโภค และปกป้องให้เศรษฐกิจประเทศ./

No comments:

Post a Comment

Post Bottom Ad





Pages