สธ. ถกเข้ม มั่นใจ ปลดล๊อคกัญชา ปลอดภัย เน้นย้ำมองที่ความต้องการของประชาชน - BIZTHAI POST

BIZTHAI POST

The Thai Biz Website

Breaking

Home Top Ad

Post Top Ad

Monday, September 26, 2022

สธ. ถกเข้ม มั่นใจ ปลดล๊อคกัญชา ปลอดภัย เน้นย้ำมองที่ความต้องการของประชาชน









สธ ถกเข้ม มั่นใจ ปลดล๊อคกัญชา ปลอดภัย เน้นย้ำมองที่ความต้องการของประชาชน





เมื่อวันที่ 23 กันยายน ที่ผ่านมาคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนกัญชาเสรีทางการแพทย์ ที่มี นพ.ประพนธ์ ตั้งศรีเกียรติกุล ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน พร้อมด้วย ดร.ภก.อนันต์ชัย อัศวเมฆิน อาจารย์ประจำคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล รองประธาน ได้หารือร่วมกับหน่วยงานภายในกระทรวงสาธารณสุข โดยได้ทบทวนแนวทางการควบคุมการปลูก ใช้ประโยชน์ ผลิต และจำหน่ายเป็นไปเพื่อประโยชน์สุขภาพและทางการแพทย์ และป้องกันการนำไปใช้ในทางที่ผิด โดยที่ประชุมได้มีการแลกเปลี่ยนประเด็นของผลกระทบที่เกิดจากปลดพืชกัญชาออกจากยาเสพติดหลังวันที่ 9 มิถุนายน 2565 ข้อกฏหมายที่เกี่ยวข้องกับต้นทาง กลางทางและปลายทาง โดยเปรียบเทียบกับข้อกฏหมายระหว่างประเทศ และมาตรการป้องกันและติดตามผลกระทบ




นพ.ประพนธ์ ได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า “ที่ผ่านมาทางกระทรวงสาธารณสุขดำเนินการเรื่องเหล่านี้มาโดยตลอด มีระบบการควบคุมกำกับผลกระทบด้านลบที่อาจจะเกิดขึ้น และมีการประชุมร่วมกันเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูล การทำงานอย่างต่อเนื่องทำให้เราเข้าใจความเป็นพลวัตรของสังคมและกัญชา ว่าทำไมฟากฝั่งประชาชนจึงต้องการให้ปลดกัญชาจากยาเสพติด เพราะต้องการนำไปใช้ประโยชน์ทางการแพทย์และสุขภาพ ที่เป็นความต้องการร่วมของคนทั่วโลก เราพูดกันมานานว่า เราต้องการปฏิรูประบบสุขภาพ คืนอำนาจการดูแลสุขภาพให้ประชาชน ซึ่งกัญชาเป็นสมุนไพรพื้นบ้านที่คนไทยใช้มานาน คงไม่สามารถนำบริบทบ้านเราไปเปรียบเทียบกับต่างประเทศ ที่ไม่มีความรู้เหล่านี้อยู่เลย ในส่วนของผลลบที่สังคมกังวล ข้อมูลของกรมการแพทย์วันนี้ที่มารายงาน ก็พบว่าเมื่อเทียบกับยาเสพติดอื่น กัญชาไม่ได้ทำให้เกิดการเสพติดสูงเป็นอันดับ 1 แต่เป็นอันดับ 5 นอกจากนั้นสิ่งที่เราพบก็คือ รูปแบบการใช้ยาเสพติดมีการใช้ร่วมกันหลายชนิด และเมื่อดูแนวโน้มการใช้กัญชาเพื่อสันทนาการในแต่ละปี พบว่า ไม่มีมีสัดส่วนที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ตรงนี้เป็นสิ่งที่อยากสื่อสารถึงสังคม ขอให้มั่นใจว่าเรามีระบบในการป้องกันผลกระทบด้านลบ”



“ในส่วนของความสอดคล้องกับกฏหมายระหว่างประเทศนั้น จริงๆแล้วไม่ได้มีการระบุว่าต้องกำหนดให้เป็นยาเสพติด แต่ต้องมีมาตรการป้องกันการนำไปใช้ในทางผิด อย่างเช่น อิสราเอล ก็กำหนดกัญชาเป็น dangerous drug ส่วนแคนาดา ก็มีการออกกฏหมายควบคุมที่เรียกว่า cannabis act ในส่วนของประเทศไทยนั้นมีการกำหนดให้กัญชาเป็นสมุนไพรควบคุม ที่หากไม่ทำตามจะมีความผิดทางอาญา และในส่วนการแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ก็มีกฏหมายที่เกี่ยวข้องที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาดูแลอยู่ จึงไม่ใช่เป็นสุญญากาศแบบที่หลายคนเข้าใจ




จากข้อมูลของกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก มีผู้ได้รับอนุญาตจำหน่ายและแปรรูป 801 คำขอ ส่งออก 67 คำขอ รวมทั้งสิ้น 868 คำขอ ปัจจุบันกรมการแพทย์แผนไทยฯ ยังได้เร่งอบรมและเสริมสมรรถนะพนักงานเจ้าหน้าที่ เพื่อให้เกิดการทำงานไปในทิศทางเดียวกันอย่างมีประสิทธิภาพ

นอกจากนั้นในวันนี้เรายังได้แลกเปลี่ยนกันในเรื่องการติดตามผลิตภัณฑ์และบริการในท้องตลาด โดยการสุ่มตรวจอย่างต่อเนื่องเป็นการประกันความปลอดภัยให้ผู้บริโภค” นพ.ประพนธ์ได้กล่าวทิ้งท้าย

No comments:

Post a Comment

Post Bottom Ad





Pages