บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ “ซีพีเอฟ” รายงานกำไรสุทธิไตรมาส 1 ปี 2567 จำนวน 1,152 ล้านบาท เติบโต 142% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งมีปัจจัยหลักมาจากราคาเนื้อสัตว์ในภูมิภาคเอเชียที่ปรับตัวดีขึ้นจากระดับในปีที่ผ่านมา ประกอบกับประสิทธิภาพในการผลิตที่มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องทำให้ต้นทุนในการเลี้ยงสัตว์ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน
นายประสิทธิ์ บุญดวงประเสริฐ ประธานคณะผู้บริหาร ซีพีเอฟ กล่าวถึงผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นนี้ว่า ปีที่ผ่านมาเป็นปีที่บริษัทผ่านความท้าทายมากมายไม่ว่าจะเป็นต้นทุนที่เพิ่มขึ้น และภาวะสินค้าล้นตลาดของปริมาณเนื้อสัตว์ในหลายประเทศจากกำลังซื้อที่ไม่ดีขึ้นตามคาด ซึ่งทำให้บริษัทให้ความสำคัญเรื่องประสิทธิภาพและระมัดระวังในการลงทุนมาอย่างต่อเนื่อง มีการตัดจำหน่ายทรัพย์สินบางส่วนเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงานให้ดีขึ้น รวมถึงการวิจัย พัฒนา สร้างสรรค์นวัตกรรมและสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลิตภัณฑ์ของบริษัท เพื่อตอบโจทย์ตามความต้องการของผู้บริโภค รวมถึงประเภทสินค้าอาหารสุขภาพที่เน้นด้านโภชนาการที่ดี พร้อมทั้งปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ทางด้านการตลาด การขาย และช่องทางจัดจำหน่ายให้สอดคล้องกับสภาวะของตลาดและพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป
ผลการดำเนินงานในไตรมาสที่ 1 ปีนี้ ปรับตัวดีขึ้นถึง 142% โดยเฉพาะอย่างยิ่งธุรกิจในประเทศเวียดนามและกัมพูชา จากการขยายช่องทางในการขาย และระดับราคาสุกรที่เพิ่มขึ้น นอกจากนั้น บริษัทยังมีส่วนได้ในกำไรของบริษัทร่วมและการร่วมค้าที่ดีขึ้นจากผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นของ CPALL และธุรกิจสุกรในประเทศจีน และคาดว่าในช่วงที่เหลือของปี 2567 ผลการดำเนินงานของซีพีเอฟจะดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง
No comments:
Post a Comment