บมจ. เอเจ แอดวานซ์ เทคโนโลยี จับมือพันธมิตรจีน
ร่วมขับเคลื่อนอุตสาหกรรมพลังงานสะอาด เพื่ออนาคตเศรษฐกิจไทยยั่งยืน
กรุงเทพฯ — บริษัท เอเจ แอดวานซ์ เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) ผู้นำด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมยานยนต์ไฟฟ้าของไทย มุ่งมั่นจัดหาโซลูชั่นการเดินทางสีเขียวที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ประหยัด และสะดวกสบายให้กับคนไทย พร้อมผลักดันการพัฒนาอุตสาหกรรมพลังงานใหม่ของประเทศไทย เพื่อเป็นองค์กรต้นแบบในภาคการขนส่งพลังงานใหม่ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

_copy_1024x683.jpg)
ท่ามกลางกระแสการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานทั่วโลก ประเทศไทยเดินหน้าสู่ยุค “พลังงานสะอาด” อย่างจริงจัง โดยมียานยนต์ไฟฟ้า และรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า เป็นหัวใจสำคัญในการลดการพึ่งพาพลังงานฟอสซิล เสริมความมั่นคงทางพลังงานของประเทศ และขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยไปสู่ความยั่งยืนในระยะยาว ล่าสุด บมจ. เอเจ แอดวานซ์ เทคโนโลยี ได้เดินหน้าประกาศจัดตั้ง “พันธมิตรอุตสาหกรรมพลังงานใหม่” และ “สถาบันวิจัยอุตสาหกรรมพลังงานใหม่ประเทศไทย” พร้อมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ร่วมกับพันธมิตรด้านเทคโนโลยีชั้นนำจากประเทศจีน เพื่อร่วมลงทุนพัฒนาและผลิตยานยนต์ไฟฟ้าพลังงานใหม่ของไทย พร้อมสร้างเครือข่ายสถานีเปลี่ยนแบตเตอรี่อัจฉริยะ สร้างกลไกความร่วมมือที่มั่นคงระยะยาวระหว่างอุตสาหกรรมไทย-จีน นำเข้าเทคโนโลยีขั้นสูงเพื่อสร้างระบบนวัตกรรมเทคโนโลยีของประเทศ โดยโครงการนี้มีมูลค่าการลงทุนรวมสูงถึง 14,300 ล้านบาท รองรับผู้ใช้บริการได้มากถึง 500,000 คน มีความสำคัญเชิงยุทธศาสตร์อย่างยิ่งต่อความมั่นคงด้านพลังงานของประเทศ การยกระดับอุตสาหกรรม และการควบคุมการปล่อยคาร์บอน
ร่วมมือไทย–จีน ขยายอุตสาหกรรมพลังงานสะอาด
ความร่วมมือครั้งนี้เป็นก้าวสำคัญของ บมจ. เอเจ แอดวานซ์ เทคโนโลยี ในการเสริมศักยภาพการผลิตและเทคโนโลยีด้านระบบขับเคลื่อนไฟฟ้า โดยได้รับการสนับสนุนจากพันธมิตรจีนผู้เชี่ยวชาญด้านแบตเตอรี่ลิเธียม และการผลิตยานยนต์ไฟฟ้า ร่วมกันผลักดันและขับเคลื่อนการพัฒนาอุตสาหกรรมพลังงานทดแทนของไทย อำนวยประโยชน์ทั้งต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมไทย
- ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ปรับปรุงคุณภาพอากาศในเมือง
- ยกระดับภาพลักษณ์เมือง สร้างเมืองอัจฉริยะและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ส่งเสริมการเปลี่ยนให้เป็นพลังงานสีเขียวในไทย
- สร้างตำแหน่งงานให้คนไทยได้มากกว่า 12,000 ตำแหน่ง
- ช่วยลดต้นทุนการเดินทางของประชาชน เนื่องจากยานยนต์ไฟฟ้ามีต้นทุนการใช้งานน้อยกว่ารถใช้น้ำมัน

นายพิชัย ปัญจสังข์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอเจ แอดวานซ์ เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงแนวคิด หลักในการดำเนินโครงการฯ ว่า “การลงนามความร่วมมือกับพันธมิตรจีนในครั้งนี้ ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของ AJ EV ในการขยายศักยภาพสู่ระดับภูมิภาค เราไม่เพียงผลิตยานยนต์ไฟฟ้า แต่เรากำลังสร้างระบบนิเวศพลังงานสะอาดของไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืน”
นวัตกรรม Battery Swapping เพื่อคนไทย
AJ EV มุ่งหน้าพัฒนาระบบเปลี่ยนแบตเตอรี่ ให้สามารถใช้งานได้จริงในชีวิตประจำวันของผู้บริโภคชาวไทย โดยจะร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชนในการติดตั้งสถานีเปลี่ยนแบตเตอรี่ในพื้นที่สำคัญทั่วประเทศ แก้ปัญหาความยุ่งยากในการชาร์จไฟ เพิ่มความสะดวกในการใช้งาน และขยายโอกาสทางเศรษฐกิจให้แก่ผู้ประกอบการรายย่อย เช่น บริการเดลิเวอรี หรือผู้ขับขี่มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้ารับจ้าง ซึ่งถือเป็นกลุ่มเป้าหมายหลักในการเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสะอาด
ลดต้นทุน เพิ่มความคุ้มค่า ส่งต่อ EV ที่เข้าถึงได้จริง
ความร่วมมือนี้ไม่เพียงสร้างผลดีเฉพาะภาคอุตสาหกรรมเท่านั้น แต่ยังสร้างโอกาสเชิงกลยุทธ์ให้ผู้จัดจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้าและมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าในประเทศโดยตรง ช่วยให้สามารถนำเสนอราคาที่เข้าถึงผู้บริโภคได้มากขึ้น เพราะต้นทุนด้านนำเข้าและโลจิสติกส์ลดลงอย่างเห็นได้ชัด สินค้ามาถึงมือเร็วขึ้น บริหารสต็อกได้มีประสิทธิภาพกว่าเดิม ผู้จัดจำหน่ายสามารถนำเสนอรุ่นที่ทันสมัยและคุ้มค่ากว่าในตลาด ช่วยเพิ่มยอดขายและขยายฐานลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว

พลังงานสะอาด เพื่อความมั่นคงด้านพลังงานและเศรษฐกิจไทย
AJ EV ได้บูรณาการพลังงานหมุนเวียนอย่างพลังงานแสงอาทิตย์เข้ากับระบบไฟฟ้าอัจฉริยะเพื่อใช้ในการผลิตและชาร์จมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า ไม่เพียงช่วยลดการปล่อยคาร์บอน แต่ยังช่วยให้ประเทศสามารถกระจายการผลิตพลังงานได้ทั่วถึง เพิ่มความมั่นคงทางพลังงาน และลดความเสี่ยงจากวิกฤตราคาน้ำมันโลก ทั้งยังสอดคล้องกับเป้าหมายสำคัญของรัฐบาลไทยในการเป็นประเทศคาร์บอนเป็นกลาง (Carbon Neutrality) ภายในปี 2050 และมุ่งสู่ Net Zero Emission ภายในปี 2065
ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยอย่างยั่งยืน
โครงการจัดตั้งพันธมิตรอุตสาหกรรมพลังงานใหม่ของ AJ EV นับเป็นก้าวสำคัญในการพัฒนาอุตสาหกรรมพลังงานใหม่ของประเทศไทย เป็นประโยชน์อย่างยิ่งทั้งต่อการขับเคลื่อนประเทศ ต่อการพัฒนาภาคเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมไทย และต่อการยกระดับคุณภาพชีวิตสังคมไทย
ต่อประเทศ : ลดการพึ่งพาพลังงานนำเข้า ปรับปรุงโครงสร้างพลังงานให้เหมาะสม สนับสนุนเป้าหมาย Carbon Neutral และยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน
ต่ออุตสาหกรรม : ยกระดับความสามารถด้านเทคโนโลยีอย่างรอบด้าน สร้างความเป็นผู้นำในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สร้างระบบนิเวศอุตสาหกรรมที่สมบูรณ์
ต่อสังคม : ลดการปล่อยคาร์บอน สร้างงานกว่า 12,000 ตำแหน่ง ประหยัดค่าใช้จ่ายการเดินทางของประชาชนได้ถึง 1,500 ล้านบาทต่อปี
การผสานนโยบายภาครัฐ การลงทุนภาคเอกชน และการมีส่วนร่วมของประชาชน จะเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญที่นำประเทศไทยก้าวสู่ “สังคมพลังงานสะอาด” อย่างมั่นคงและยั่งยืน
_copy_1024x683_1.jpg)
No comments:
Post a Comment