สอวช. ร่วมเวที Earth Jump 2025 ถกประเด็นเทคโนโลยีด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ แนะเอกชนจับมือ SME ขอทุนสนับสนุนพัฒนาเทคโนโลยี - BIZTHAI POST

BIZTHAI POST

The Thai Biz Website

Breaking

Home Top Ad

Post Top Ad

Monday, June 2, 2025

สอวช. ร่วมเวที Earth Jump 2025 ถกประเด็นเทคโนโลยีด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ แนะเอกชนจับมือ SME ขอทุนสนับสนุนพัฒนาเทคโนโลยี


สอวช. ร่วมเวที Earth Jump 2025 ถกประเด็นเทคโนโลยีด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ แนะเอกชนจับมือ SME ขอทุนสนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยี สร้างความยั่งยืนให้กับประเทศ


ดร.สุรชัย สถิตคุณารัตน์ ผู้อำนวยการสำนักงานสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ (สอวช.) กล่าวว่า ตนได้เข้าร่วมเสวนาในประเด็น Climate Tech Integration: Accelerate the future ผสานพลัง Climate Tech เร่งเครื่องสู่อนาคตที่ยั่งยืน ภายในงาน EARTH JUMP 2025: Transition Thru  Turbulence จัดโดย ธนาคารกสิกรไทย โดยงานดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมศักยภาพธุรกิจและประชาชนสู่แนวทางปฏิบัติเพื่อบรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero)

ดร.สุรชัย กล่าวว่า จากการได้เป็นผู้แทนประเทศไทยเข้าร่วมในเวทีเจรจา การประชุมรัฐภาคีกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (COP) มาตั้งแต่ปี ค.ศ. 2009 เริ่มเห็นความตื่นตัวในประเด็นเรื่องโลกร้อนมากขึ้น ตั้งแต่ช่วงที่ยังไม่ได้รับความสนใจ จนในปัจจุบันที่ทุกคนให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เป็นอย่างมาก และมองว่าทุกเทคโนโลยีนั้นมีความเกี่ยวข้องกับ Climate Tech ทั้งสิ้น ซึ่งในส่วนของ สอวช. มีบทบาทในการทำนโยบายที่เกี่ยวข้องกับการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อววน.) หนึ่งในงานสำคัญที่ สอวช. ตั้งเป้าหมายขับเคลื่อนอย่างชัดเจนคือการสนับสนุนการลดก๊าซเรือนกระจก 10 ล้านตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า ผ่านการนำเอานวัตกรรมเข้ามาช่วย โดยมีการทำงานร่วมกับภาคส่วนที่เกี่ยวข้องที่มีเป้าหมายร่วมกัน
นอกจากนี้ สอวช. ยังเป็นหน่วยประสานงานกลางด้านการพัฒนาและถ่ายทอดเทคโนโลยีด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของประเทศไทย (National Designated Entity: NDE Thailand) ภายใต้กลไกเทคโนโลยี (Technology Mechanism) กรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (UNFCCC) ทำหน้าที่เชื่อมโยงนานาชาติในการดึงเทคโนโลยีระดับสูงเข้ามาในประเทศไทย ตัวอย่างเรื่องที่ สอวช. ศึกษาและขับเคลื่อนอยู่ เช่น ไฮโดรเจน การดักจับคาร์บอน การใช้ และการกักเก็บคาร์บอน (CCUS) เมืองต้นแบบที่นำไปสู่เป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ “สระบุรีแซนด์บ็อกซ์” เป็นต้น โดย สอวช. ให้ความสำคัญทั้งในมุมด้านการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (Mitigation) และการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Adaptation)

ในมุมความเชื่อมโยง Climate Tech กับกลุ่ม SME ดร.สุรชัย มองว่า ปัจจุบันมาตรการของโลกเข้มข้นมากขึ้น รวมถึงมีหลักความรับผิดชอบร่วมกันแต่แตกต่างกัน (Common But Differentiated Responsibilities: CBDR) ในการแบ่งกลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้วและประเทศกำลังพัฒนา ที่มีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกต่างกัน ส่งผลให้มีมาตรการทางการค้าที่ผนวกเรื่องการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเข้ามา ซึ่งจะส่งผลไปยังห่วงโซ่อุปทานการผลิตสินค้าของกลุ่ม SME ที่จะต้องคำนึงถึงปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในระหว่างกระบวนการผลิต อีกทั้งยังต้องมีหลักการคำนวณปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่น่าเชื่อถือและได้รับการยอมรับจากต่างชาติด้วย

“สำหรับทิศทางที่ประเทศไทยจะเดินต่อไป เรามีแผนด้านวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (ววน.) ที่วางไว้ในระยะ 5 ปี และระยะยาว เพื่อขับเคลื่อนเรื่องนี้ แต่ขณะเดียวกันเรายังต้องการเทคโนโลยีอื่นที่เข้ามาช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้มีประสิทธิภาพและรวดเร็วยิ่งขึ้น จึงอยากกระตุ้นให้ภาคเอกชนขนาดใหญ่ร่วมกับ SME หรือบริษัทขนาดกลางในการลงทุนทางด้านการพัฒนาเทคโนโลยี ผ่านการขอทุนสนับสนุนจากกองทุนภูมิอากาศสีเขียว (GCF) ที่เป็นกองทุนเพื่อช่วยเหลือประเทศกำลังพัฒนาในการปรับตัวและบรรเทาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ซึ่งจะเป็นโอกาสให้เราสามารถใช้งบประมาณส่วนนี้มาลงทุนสร้างความยั่งยืนให้กับประเทศได้” ดร.สุรชัย กล่าวทิ้งท้าย

No comments:

Post a Comment

Post Bottom Ad





Pages