“อภัยภูเบศร” เตรียมจัดใหญ่ครบ 84 ปีก่อตั้งโรงพยาบาล น้อมรำลึกบุญคุณ “เจ้าพระยาอภัยภูเบศร” ก่อเกิดการพัฒนาการพัฒนายาจากสมุนไพรจนทำให้มีวันนี้
พญ.ชนิดา สยุมภูรุจินันท์ ผู้อำนวยการ รพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร กล่าวว่า ในโอกาสที่โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร กำลังจะครบรอบ 84 ปี ในวันที่ 24 มิถุนายน 2568 เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองวาระสำคัญนี้ โรงพยาบาลฯ ได้จัดกิจกรรมขึ้นระหว่างวันที่ 23 – 24 มิถุนายน โดยมีพิธีไหว้พระ ทำบุญตักบาตร พิธีบวงสรวงท่านเจ้าพระยาอภัยภูเบศร เพื่อรำลึกถึงบุญคุณท่านที่ทำให้มีโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศรในวันนี้ นอกจากนี้ยังมีการจัดการประชุมวิชาการ ด้านการแพทย์แผนไทย เผยแพร่องค์ความรู้และประสบการณ์สู่สาธารณะ โดยมีหัวข้อที่น่าสนใจ ได้แก่ การใช้นวดไทยร่วมกับการฟื้นฟูสภาพผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง ด้วยการแพทย์แผนปัจจุบัน การรักษาผู้ป่วยโรคกระดูกและข้อด้วยยาสมุนไพรและหัตถการ ทางการแพทย์แผนไทย รวมถึงการดูแลหญิงตั้งครรภ์แบบบูรณาการ
พญ.ชนิดา กล่าวอีกว่า ภายในงานยังมีการจัดนิทรรศการภายใต้แนวคิด Innovative Wellness & Longevity ด้วยสมุนไพรไทย โดยนำเสนอนวัตกรรมสมุนไพรเพื่อรับมือมลภาวะ สมุนไพรสำหรับสังคมผู้สูงอายุ พร้อมให้บริการตรวจและให้คำปรึกษาสุขภาพกับแพทย์แผนไทย โดย วิทยาลัยการแพทย์แผนไทยอภัยภูเบศร มีนวดไทยแก้อาการ เช็คธาตุเจ้าเรือนเพื่อสร้างสมดุล พร้อมรับฟรี "ยาดมตามเจ้าเรือน" นอกจากนี้ ยังมีส่วนลดสำหรับผลิตภัณฑ์สมุนไพรอภัยภูเบศร สูงสุด 30% พร้อมของที่ระลึกในวันที่ 24 มิถุนายน ด้วย
ด้าน ดร.ภญ.สุภาภรณ์ ปิติพร เลขาธิการมูลนิธิ รพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร กล่าวว่า ท่านเจ้าพระยาอภัยภูเบศร เป็นผู้สร้างตึกเจ้าพระยาอภัยภูเบศร ความรักชาติ รักแผ่นดินของท่านเป็นแรงบันดาลใจในการริเริ่มการพัฒนายาจากสมุนไพรให้กับประเทศไทย จนมีผลิตภัณฑ์สมุนไพรในวันนี้ โดยได้ใช้โลโก้เป็นตึกเจ้าพระเจ้าพระยาอภัยภูเบศรอันเป็นสัญลักษณ์ของการต่อสู้กับลัทธิล่าอาณานิคม ซึ่งเหมือนกับการต่อสู้ของยาจากสมุนไพรเพื่อการพึ่งตนเองของไทยกับยาฝรั่ง ที่เราพึ่งตนเองไม่ได้เลย ในโอกาสครบรอบ 84 ปี ของโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร นี้ เราขอน้อมรำลึกถึงท่านและจะมุ่งมั่นให้มียาจากสมุนไพรเพื่อการพึ่งตนเองต่อไป
นอกจากนี้ เลขาธิการมูลนิธิ รพ. เจ้าพระยาอภัยภูเบศร ยังชี้ให้เห็นความสำคัญของยาที่มีคุณภาพและการเข้าถึงประชาชน มีการค้นหาถึงต้นตอและปัญหาต่างๆ หรือโรคที่เกิดขึ้น จากโรคง่ายๆ รวมไปถึงมีการศึกษาวิจัยที่เป็นรากฐานที่สำคัญ และการที่ยาที่เราผลิตขึ้นได้เข้าไปอยู่ในบัญชียาหลัก และในโรงพยาบาล ก็มีการใช้จริงในผู้ป่วย เมื่อบรรลุเป้าหมายในกลุ่มโรคง่ายๆแล้ว ก็จะมีการขยับให้เข้าถึงโรคที่มีความซับซ้อนมากขึ้น โดยเน้นประสบการณ์การใช้จริงของคนไข้เป็นหลักต่อไป
No comments:
Post a Comment