DIT รับลูก รมว.ศุภจี ลุย Quick Big Win ลดค่าครองชีพ–เพิ่มรายได้ - BIZTHAI POST

BIZTHAI POST

The Thai Biz Website

Breaking

Home Top Ad

Post Top Ad

Thursday, October 2, 2025

DIT รับลูก รมว.ศุภจี ลุย Quick Big Win ลดค่าครองชีพ–เพิ่มรายได้

DIT รับลูก รมว.ศุภจี ลุย Quick Big Win ลดค่าครองชีพ–เพิ่มรายได้ ดูแลเกษตรกร–ประชาชน-ผู้ประกอบการ



2 ตุลาคม 2568- นายวิทยากร มณีเนตร อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า กรมการค้าภายใน (DIT) เร่งขับเคลื่อนมาตรการด้านการลดค่าครองชีพและเพิ่มรายได้ให้แก่ประชาชน ตามนโยบายของ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ โดยยึดแนวทาง “Quick Big Win” เพื่อให้เห็นผลลัพธ์เป็นรูปธรรมโดยเร็ว ขณะเดียวกันก็วางรากฐานเศรษฐกิจการค้าและการส่งออกให้มั่นคงและยั่งยืนในระยะยาว


นายวิทยากร ระบุว่า ภารกิจสำคัญอันดับแรกคือ การลดค่าครองชีพของประชาชน DIT ได้เดินหน้าจัดมหกรรมธงฟ้า 1,300 ครั้งทั่วประเทศ โดยใกล้สุดเริ่มตั้งแต่เดือนตุลาคม 2568 ที่จังหวัดศรีสะเกษ และจัดต่อเนื่องในจังหวัดต่าง ๆ ตลอดทั้งปี 2569 รวมทั้งมหกรรมลดราคาสินค้าในช่วงเทศกาลสำคัญ เช่น ปีใหม่ เทศกาลกินเจ ตรุษจีน และช่วงเปิดภาคเรียน เพื่อช่วยบรรเทาภาระค่าครองชีพให้ครัวเรือน คาดว่าจะลดรายจ่ายประชาชนได้กว่า 5,000 ล้านบาทต่อปี พร้อมกันนี้ยังมีการเชื่อมโยงสินค้าเกษตรเข้าสู่ตลาดเมืองใหญ่ และเพิ่มช่องทางจำหน่ายในพื้นที่ต่างจังหวัดเพื่อให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ ยังมีการจัดกิจกรรมลดราคาปุ๋ย และยา ในโครงการธงเขียว ด้วย


นายวิทยากร กล่าวต่อว่า “อีกหนึ่งมาตรการที่ถือเป็น Quick Big Win คือการลงนามบันทึกความร่วมมือ (MOU) กับสมาคมโรงพยาบาลเอกชน เพื่อเปิดเผยราคายาและเวชภัณฑ์ก่อนการชำระเงิน ช่วยให้ผู้ป่วยสามารถเลือกซื้อยาจากร้านขายยาภายนอกได้อย่างโปร่งใสและเป็นธรรม คาดว่าจะช่วยประชาชนประหยัดค่าใช้จ่ายกว่า 32,400 ล้านบาทต่อปี นอกจากนั้นยังช่วยลดความแออัดในโรงพยาบาลรัฐ และเปิดโอกาสให้โรงพยาบาลเอกชนมีผู้ใช้บริการเพิ่มขึ้น ด้านเวชภัณฑ์จำเป็น กรมฯ ยังได้เข้ามากำกับต้นทุนสินค้าสำคัญ เช่น ผ้าก๊อซ สำลี แผ่นแปะแผล ชุดตรวจ ATK ถุงมือยาง และแผ่นรองซับ โดยมาตรการดังกล่าวช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้อีกกว่า 1,100 ล้านบาท



นอกจากการดูแลค่าครองชีพแล้ว DIT ยังมุ่งรักษาเสถียรภาพราคาสินค้าเกษตรที่เป็นหัวใจของเศรษฐกิจฐานราก ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ที่มีปัญหาสำคัญเรื่องการนำเข้าจากพื้นที่เผาและก่อมลพิษ โดยได้กำหนดมาตรการควบคุมการนำเข้าตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2569 เพื่อยกระดับมาตรฐานสิ่งแวดล้อม ขณะเดียวกันก็ประกันราคารับซื้อที่เกษตรกรพอใจเพื่อให้มีรายได้ที่มั่นคง ส่วนมันสำปะหลัง ได้มีส่งเสริมให้เกษตรกรและกลุ่มวิสาหกิจชุมชนแปรรูปหัวมันสดเป็นมันเส้นเพื่อยืดอายุการเก็บรักษา และสนับสนุนเครื่องจักรเพื่อเพิ่มมูลค่าการผลิต รวมถึงผลักดันการใช้พันธุ์ต้านทานโรคใบด่างและควบคุมการนำเข้าสินค้าคุณภาพต่ำเพื่อปกป้องอุตสาหกรรมมันสำปะหลังไทยไม่ให้ได้รับผลกระทบจากโรคระบาด”


“สำหรับผลไม้และพืชเศรษฐกิจอื่นๆ เช่น กระเทียม หอมแดง และหอมใหญ่ ที่มีผลผลิตออกกระจุกตัวและเน่าเสียง่าย DIT ได้ร่วมกับห้างค้าปลีกและเครือข่ายจำหน่ายทั่วประเทศในการกระจายผลผลิตออกนอกพื้นที่เก็บเกี่ยว รวมถึงเชื่อมโยงการซื้อขายล่วงหน้าและจัดกิจกรรมรณรงค์การบริโภคผลไม้ไทย เพื่อกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศและรักษาระดับราคาที่เป็นธรรมทั้งต่อเกษตรกรและผู้บริโภค

นอกจากนี้ยังมีแนวทางในการช่วยเหลือเกษตรกรในการจัดทำตัวอย่างการปลูกพืชเศรษฐกิจที่มีตลาดรองรับทดแทน โดยกรมได้เริ่มแปลงตัวอย่างกับสินค้ากล้วยหอม ในอำเภอเสิงสาง จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งสามารถส่งออกกล้วยหอมไปยังประเทศญี่ปุ่นได้ในราคาดี ทำให้ปัจจุบันเกษตรกรในพื้นที่ใกล้เคียงได้มีการปรับเปลี่ยนพืชเดิมมาปลูกกล้วยหอมกันมากขึ้น โดยแนวทางดังกล่าวจะได้มีการนำไปต่อยอดกับสินค้าเกษตรตัวต่อไป อาทิ แปลงลำไยในจังหวัดลำพูน ที่จะมีการปลูกอาโวคาโด แซมในแปลงลำไย เป็นต้น”


“มาตรการ Quick Big Win ดังกล่าวจะดำเนินการทันที โดยผลการดำเนินมาตรการจะมีผลเป็นการวาง้โครงสร้างพื้นฐานที่ทำให้ประชาชนได้ประโยชน์ เกษตรกรมีรายได้มั่นคง ผู้ประกอบการสามารถแข่งขันได้ และเศรษฐกิจไทยมีความแข็งแกร่งในระยะยาว ตรงตามเจตนารมณ์ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ที่มุ่งให้เกิด Quick Win พร้อมกับการสร้างรากฐานการค้าไทยที่โปร่งใส ยั่งยืน และเป็นประโยชน์สูงสุดต่อประเทศ” นายวิทยากร กล่าวทิ้งท้าย

No comments:

Post a Comment

Post Bottom Ad





Pages